พอพูดถึงเครือของ “Vanilla” หลายๆ คนก็คงนึกถึงเมนูอาหารฝรั่งแนวสร้างสรรค์ที่บางครั้งก็ผสมผสานวัตถุดิบแบบไทยๆ และเบเกอรี่ที่เต็มไปด้วยขนมอบสุดอร่อย ล่าสุด “Vanilla Cafeteria” มาเปิดสาขาใหม่ที่ EmQuartier ให้คุณได้ลองของอร่อยเพิ่มอีกที่หนึ่งค่ะ
![Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/FB-Cover.jpg)
ทางทีมงานได้รับเชิญไปชิม “Vanilla Cafeteria” ที่ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ตึก Helix ที่ EmQuartier มาค่ะ โดยสำหรับสาขานี้การตกแต่งจะเน้นการผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัย
![Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/1.jpg)
- Vanilla Cafeteria
ด้านหน้าจะเป็นโซนวางขนมต่างๆ ให้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับบ้านไปทาน
![Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/2.jpg)
![Bakery @Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/2-2.jpg)
ส่วนด้านในออกแบบให้เป็นพื้นที่โปร่งโล่งสบายตาที่มีโต๊ะหลากหลายแบบให้เลือกนั่ง จะชิลๆ ชมวิวด้านนอกก็ได้หรือจะนั่งแถวเคาน์เตอร์บาร์ดูบรรยากาศการตระเตรียมอาหารก็ดี
![Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/3.jpg)
![Vanilla Cafeteria](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/4.jpg)
เมนูอาหารของที่นี่ทำรูปแบบคล้ายกับหนังสือพิมพ์ดูเก๋ไก๋ มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารหลากหลายหมวดหมู่ให้เลือกสรร โดยส่วนของเครื่องดื่มจะใกล้เคียงกับที่ Vanilla Bakeshop ที่มี Fruit Punch, Fruit Juice, Fruit Frosty สีสันสดสวยมาให้ลอง
ส่วนอาหารเรียกน้ำย่อยก็มีเมนูฮิตอย่าง Bruschetta mixed plate ที่ยกมาเอาใจแฟนๆ และยังมีเมนูใหม่ๆ อีกเพียบรวมเป็นสิบกว่ารายการ
และในส่วนของพาสต้าก็จะมีทั้งแบบต้นตำรับอย่าง carbonara ที่เราคุ้นชิน แต่แน่นอนว่าต้องมีเมนูที่เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าปูนิ่มคั่วพริกกะเทียม พาสต้ากุ้งแม่น้ำ ที่ผสมผสานความเป็นไทย หรือ พาสต้าซอสครีมไข่กุ้งหรือไข่ปลาทาราโกะแบบญี่ปุ่น
เราเริ่มจากการสั่งเครื่องดื่มสีสวยๆ อย่าง Fruit Punch – Sour Apple Maple 145B และ Grapefruit Elderflower Soda 145B มาลอง
![Fruit Punch - Sour Apple Maple 145B](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/5-Apple-Maple.jpg)
น้ำแอปเปิ้ลนั้นออกรสผักมากไปนิด
![Grapefruit Elderflower Soda 145B](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/6-Grapefruit.jpg)
ส่วนเกรปฟรุ้ตก็หวานไปหน่อย
คราวหน้าคงลองสั่งแบบ Ice Blend ที่เป็นไอศกรีมปั่นมาลองชิมดูค่ะ
วันนี้เล็งๆไว้แต่กลัวอิ่มไปเสียก่อน
ระหว่างที่รออาหารทางร้านก็มี Complementary Thin Baguette แผ่นบางกรอบมาให้ทานไปเพลินๆด้วยนะคะ
![Complementary Thin Baguette](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/7-Bread.jpg)
เนื่องจากเป็นสาขาใหม่เราก็อยากจะลองสั่งอะไรที่แปลกตาดูบ้าง ลงเอยที่เมนู Scallops & Potato Chowder Gratin (380B)
![8 Scallop Gratin](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/8-Scallop-Gratin.jpg)
กราแตงมันฝรั่งชีสเยิ้มๆ ที่ใช้ชีสถึงสี่ชนิดและให้หอยเชลล์ตัวอวบมาหลายตัว
![Scallops & Potato Choder Gratin (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/9-Scallop-Gratin-2.jpg)
และ Italian Sausage & Spinach Quesadillas (290B)
![Italian Sausage & Spinach Quesadillas (290B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/12.jpg)
เมนูอาหารเม็กซิกันที่ทำออกมาได้ลงตัวสุดๆ ตั้งแต่แป้งที่บางกรอบ เนื้อไส้กรอกที่ปรุงรสออกมาเข้มข้น เข้ากันกับชีสและผักโขม แถมมีซัลซ่ามะเขือเทศอโวคาโดมาให้ทานเคียงอีก
![Italian Sausage & Spinach Quesadillas (290B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/11.jpg)
สำหรับซุปลองเป็น River Prawn Bisque (340B)
ซุปข้นกุ้งที่ใส่ทั้งหอมสับ เนื้อกุ้งสับ ซึ่งจะมาพร้อมขนมปังฝรั่งเศส (baguette) ที่ปิ้งมากรอบๆ
แอบตินิดตรงที่โรย rosemary มามากมายจนกลิ่นแรง ใครที่ไม่ค่อยชอบสมุนไพรจะทานยากพอควร
![River Prawn Bisque (340B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/10-Lobster-Bisque.jpg)
ต่อมาด้วยเมนูพาสต้า Squid Ink Pasta with Garlic River Prawns (380B)
เส้น Spaghetti หมึกดำ ผัดเนยกระเทียมมาแบบแห้งๆ หน่อย โรยด้วยไข่กุ้งและไข่ปลาแซลมอน
![Squid Ink Pasta with Garlic River Prawns (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/14-Spaghetti-2.jpg)
จานนี้ชอบที่ใส่ไข่กุ้งเพราะทำให้ตัวเส้นมีรสสัมผัสที่น่าสนใจขึ้นมาก
และทีเด็ดอยู่ที่กุ้งแม่น้ำที่ทำมาสุกพอดีขนาดที่ว่ามันที่หัวกำลังเยิ้มๆ ถูกใจสุดๆ
จานนี้ชอบมาก ถ้าจะให้วิจารณ์ก็คงมีแต่ว่าตัวเส้นผัดกระเทียมนั้นทำมาเค็มไปอีกนิดค่ะ
![Squid Ink Pasta with Garlic River Prawns (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/13-Spaghetti.jpg)
Smoked Pork Chop with Raspberry Gravy (480B) อันนี้มาจานใหญ่สุดๆ จนทานกันไม่หวัดไม่ไหว
ตัวหมูรมควันเนื้อนุ่มกลิ่นและรสชาติดีมาก ตัวซอสออกอมเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับกะหล่ำม่วงที่ผัดในน้ำมันมะกอก และ onion ring มีบลูเบอร์รี่สดโปะด้านบนอีกต่างหาก
ส่วนตัวชอบซอสเพราะเป็นรสชาติน่าสนใจที่ไม่ได้เจอบ่อยในอาหารจานหลัก แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานก็อาจจะทานยากนิดหนึ่งเพราะตัวซอสเป็นซอสผลไม้จะออกหวานนำ
![Smoked Pork Chop with Raspberry Gravy (480B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/15-Pork-Chop-Berry-Sauce.jpg)
อิ่มกับจานหลักก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยคือการชิมของหวานที่ขึ้นชื่อของที่นี่
เริ่มจาก Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (380B)
![Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/19-Chocolate.jpg)
เค้กดาร์คช็อกโกแลตรสเข้มข้นโปะด้วยเบอร์รี่ชนิดต่างๆ และถั่วเฮเซลนัท ด้านนอกอบมาแข็งๆ หน่อย พอตักไปตรงกลางตัวเค้กช็อกโกแลตก็จะนุ่มและเยิ้มกว่าขอบ
![Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/20-Chocolate-2.jpg)
ต่อด้วยเมนูแนะนำ Marshmallow Lava with Chocolate Whisky Sauce (380B)
![Marshmallow Lava with Chocolate Whisky Sauce (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/21-Marshmellow.jpg)
จานนี้ก็ยังคงแนวช็อกโกแลต ด้านบนโปะมาร์ชเมลโลว์มาจนพูนตักแล้วยืดดดด ได้ใจ
ทานกับบลูเบอร์รี่และถั่วแมคาเดเมียกรุบกรอบ ราดด้วยซอสวิสกี้พอมีกลิ่น เค้กจะแห้งๆ หน่อย
![Marshmallow Lava with Chocolate Whisky Sauce (380B)](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/22-Marshmellow-2.jpg)
ได้ทานขนมหวานสองจานนี้คนรักช็อกโกแลตก็ฟินกันไป
จากนั้นก็ล้างปากกันด้วยชาดอกไม้คุณภาพดีของที่นี่ ที่มา brew ให้ดูกันสดๆ ชากลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวล
![Tea leaves](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/16-Tea.jpg)
![Tea Brewing](http://travel.sanook.com/blog/wp-content/uploads/2015/07/18-Tea-3.jpg)
โดยรวมแล้วชอบสไตล์ของร้านนี้มาก ตกแต่งสวย บรรยากาศนั่งสบาย อาหารเป็นแนวฟิวชั่นเล็กๆ มีลูกเล่นให้ไม่น่าเบื่อผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัย รวมความเป็นอาหารตะวันตกและรสชาติที่คุ้นชินแบบตะวันออกเข้าด้วยกันได้พอดิบพอดี ขนมและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะมาก จะมีติก็ที่ขนาดจานแต่ละอย่างค่อนข้างใหญ่โดยเฉพาะจานหลัก ปกติเป็นคนชอบชิมหลายๆ อย่าง ถ้าจานหลักลดขนาดลงมาได้อีกนิดก็น่าจะดี เพราะต้องเหลือที่ไว้ให้ทานของหวานกันด้วยจริงไหมคะ
ช่วงที่มาทานเป็นช่วง Soft opening การบริการยังมีขลุกขลักอยู่บ้างแต่เชื่อว่าเปิดจริงน่าจะจัดการได้ดีขึ้นค่ะ ก็เป็นอีกร้านที่แนะนำให้มาลองกันดูนะคะ โดยเฉพาะขนมนี่ถือว่าห้ามพลาดเลยเชียวค่ะ จะมาตั้งใจมาทานอาหารหรือมาลองชิมแค่ขนมหวานกับชากาแฟช่วงบ่ายๆ ค่ำๆ ก็น่าจะดีไม่แพ้กันเลยเชียวค่ะ