พอพูดถึงเครือของ “Vanilla” หลายๆ คนก็คงนึกถึงเมนูอาหารฝรั่งแนวสร้างสรรค์ที่บางครั้งก็ผสมผสานวัตถุดิบแบบไทยๆ และเบเกอรี่ที่เต็มไปด้วยขนมอบสุดอร่อย ล่าสุด “Vanilla Cafeteria” มาเปิดสาขาใหม่ที่ EmQuartier ให้คุณได้ลองของอร่อยเพิ่มอีกที่หนึ่งค่ะ
ทางทีมงานได้รับเชิญไปชิม “Vanilla Cafeteria” ที่ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ตึก Helix ที่ EmQuartier มาค่ะ โดยสำหรับสาขานี้การตกแต่งจะเน้นการผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัย
ด้านหน้าจะเป็นโซนวางขนมต่างๆ ให้ซื้อหาติดไม้ติดมือกลับบ้านไปทาน
ส่วนด้านในออกแบบให้เป็นพื้นที่โปร่งโล่งสบายตาที่มีโต๊ะหลากหลายแบบให้เลือกนั่ง จะชิลๆ ชมวิวด้านนอกก็ได้หรือจะนั่งแถวเคาน์เตอร์บาร์ดูบรรยากาศการตระเตรียมอาหารก็ดี
เมนูอาหารของที่นี่ทำรูปแบบคล้ายกับหนังสือพิมพ์ดูเก๋ไก๋ มีทั้งเครื่องดื่มและอาหารหลากหลายหมวดหมู่ให้เลือกสรร โดยส่วนของเครื่องดื่มจะใกล้เคียงกับที่ Vanilla Bakeshop ที่มี Fruit Punch, Fruit Juice, Fruit Frosty สีสันสดสวยมาให้ลอง
ส่วนอาหารเรียกน้ำย่อยก็มีเมนูฮิตอย่าง Bruschetta mixed plate ที่ยกมาเอาใจแฟนๆ และยังมีเมนูใหม่ๆ อีกเพียบรวมเป็นสิบกว่ารายการ
และในส่วนของพาสต้าก็จะมีทั้งแบบต้นตำรับอย่าง carbonara ที่เราคุ้นชิน แต่แน่นอนว่าต้องมีเมนูที่เปี่ยมไปด้วยลูกเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าปูนิ่มคั่วพริกกะเทียม พาสต้ากุ้งแม่น้ำ ที่ผสมผสานความเป็นไทย หรือ พาสต้าซอสครีมไข่กุ้งหรือไข่ปลาทาราโกะแบบญี่ปุ่น
เราเริ่มจากการสั่งเครื่องดื่มสีสวยๆ อย่าง Fruit Punch – Sour Apple Maple 145B และ Grapefruit Elderflower Soda 145B มาลอง
น้ำแอปเปิ้ลนั้นออกรสผักมากไปนิด
ส่วนเกรปฟรุ้ตก็หวานไปหน่อย
คราวหน้าคงลองสั่งแบบ Ice Blend ที่เป็นไอศกรีมปั่นมาลองชิมดูค่ะ
วันนี้เล็งๆไว้แต่กลัวอิ่มไปเสียก่อน
ระหว่างที่รออาหารทางร้านก็มี Complementary Thin Baguette แผ่นบางกรอบมาให้ทานไปเพลินๆด้วยนะคะ
เนื่องจากเป็นสาขาใหม่เราก็อยากจะลองสั่งอะไรที่แปลกตาดูบ้าง ลงเอยที่เมนู Scallops & Potato Chowder Gratin (380B)
กราแตงมันฝรั่งชีสเยิ้มๆ ที่ใช้ชีสถึงสี่ชนิดและให้หอยเชลล์ตัวอวบมาหลายตัว
และ Italian Sausage & Spinach Quesadillas (290B)
เมนูอาหารเม็กซิกันที่ทำออกมาได้ลงตัวสุดๆ ตั้งแต่แป้งที่บางกรอบ เนื้อไส้กรอกที่ปรุงรสออกมาเข้มข้น เข้ากันกับชีสและผักโขม แถมมีซัลซ่ามะเขือเทศอโวคาโดมาให้ทานเคียงอีก
สำหรับซุปลองเป็น River Prawn Bisque (340B)
ซุปข้นกุ้งที่ใส่ทั้งหอมสับ เนื้อกุ้งสับ ซึ่งจะมาพร้อมขนมปังฝรั่งเศส (baguette) ที่ปิ้งมากรอบๆ
แอบตินิดตรงที่โรย rosemary มามากมายจนกลิ่นแรง ใครที่ไม่ค่อยชอบสมุนไพรจะทานยากพอควร
ต่อมาด้วยเมนูพาสต้า Squid Ink Pasta with Garlic River Prawns (380B)
เส้น Spaghetti หมึกดำ ผัดเนยกระเทียมมาแบบแห้งๆ หน่อย โรยด้วยไข่กุ้งและไข่ปลาแซลมอน
จานนี้ชอบที่ใส่ไข่กุ้งเพราะทำให้ตัวเส้นมีรสสัมผัสที่น่าสนใจขึ้นมาก
และทีเด็ดอยู่ที่กุ้งแม่น้ำที่ทำมาสุกพอดีขนาดที่ว่ามันที่หัวกำลังเยิ้มๆ ถูกใจสุดๆ
จานนี้ชอบมาก ถ้าจะให้วิจารณ์ก็คงมีแต่ว่าตัวเส้นผัดกระเทียมนั้นทำมาเค็มไปอีกนิดค่ะ
Smoked Pork Chop with Raspberry Gravy (480B) อันนี้มาจานใหญ่สุดๆ จนทานกันไม่หวัดไม่ไหว
ตัวหมูรมควันเนื้อนุ่มกลิ่นและรสชาติดีมาก ตัวซอสออกอมเปรี้ยวอมหวาน เสิร์ฟมาให้ทานคู่กับกะหล่ำม่วงที่ผัดในน้ำมันมะกอก และ onion ring มีบลูเบอร์รี่สดโปะด้านบนอีกต่างหาก
ส่วนตัวชอบซอสเพราะเป็นรสชาติน่าสนใจที่ไม่ได้เจอบ่อยในอาหารจานหลัก แต่ถ้าใครไม่ชอบหวานก็อาจจะทานยากนิดหนึ่งเพราะตัวซอสเป็นซอสผลไม้จะออกหวานนำ
อิ่มกับจานหลักก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยคือการชิมของหวานที่ขึ้นชื่อของที่นี่
เริ่มจาก Dark Chocolate Self-Saucing Cake with Fresh Berries (380B)
เค้กดาร์คช็อกโกแลตรสเข้มข้นโปะด้วยเบอร์รี่ชนิดต่างๆ และถั่วเฮเซลนัท ด้านนอกอบมาแข็งๆ หน่อย พอตักไปตรงกลางตัวเค้กช็อกโกแลตก็จะนุ่มและเยิ้มกว่าขอบ
ต่อด้วยเมนูแนะนำ Marshmallow Lava with Chocolate Whisky Sauce (380B)
จานนี้ก็ยังคงแนวช็อกโกแลต ด้านบนโปะมาร์ชเมลโลว์มาจนพูนตักแล้วยืดดดด ได้ใจ
ทานกับบลูเบอร์รี่และถั่วแมคาเดเมียกรุบกรอบ ราดด้วยซอสวิสกี้พอมีกลิ่น เค้กจะแห้งๆ หน่อย
ได้ทานขนมหวานสองจานนี้คนรักช็อกโกแลตก็ฟินกันไป
จากนั้นก็ล้างปากกันด้วยชาดอกไม้คุณภาพดีของที่นี่ ที่มา brew ให้ดูกันสดๆ ชากลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวล
โดยรวมแล้วชอบสไตล์ของร้านนี้มาก ตกแต่งสวย บรรยากาศนั่งสบาย อาหารเป็นแนวฟิวชั่นเล็กๆ มีลูกเล่นให้ไม่น่าเบื่อผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัย รวมความเป็นอาหารตะวันตกและรสชาติที่คุ้นชินแบบตะวันออกเข้าด้วยกันได้พอดิบพอดี ขนมและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเยอะมาก จะมีติก็ที่ขนาดจานแต่ละอย่างค่อนข้างใหญ่โดยเฉพาะจานหลัก ปกติเป็นคนชอบชิมหลายๆ อย่าง ถ้าจานหลักลดขนาดลงมาได้อีกนิดก็น่าจะดี เพราะต้องเหลือที่ไว้ให้ทานของหวานกันด้วยจริงไหมคะ
ช่วงที่มาทานเป็นช่วง Soft opening การบริการยังมีขลุกขลักอยู่บ้างแต่เชื่อว่าเปิดจริงน่าจะจัดการได้ดีขึ้นค่ะ ก็เป็นอีกร้านที่แนะนำให้มาลองกันดูนะคะ โดยเฉพาะขนมนี่ถือว่าห้ามพลาดเลยเชียวค่ะ จะมาตั้งใจมาทานอาหารหรือมาลองชิมแค่ขนมหวานกับชากาแฟช่วงบ่ายๆ ค่ำๆ ก็น่าจะดีไม่แพ้กันเลยเชียวค่ะ