Autumn Macaron Collection @Pierre Herme

Pierre Herme ร้านมาการองชื่อดังของฝรั่งเศสได้มาเปิดแรกสาขาในไทยที่ EmQuartier เมื่อต้นปีนี้ค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความปลาบปลื้มให้คนที่ตกหลุมรักเจ้าขนมหวานสุดอร่อยเหล่านี้เป็นอันมาก

หนึ่งในสาวกของปิกัสโซ่แห่งวงการขนมหวานอย่างเราก็เลยติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เรียกว่ารสใหม่ออกเมื่อไรเป็นต้องรีบไปชิม

 

เมื่อ Summer เราก็ได้ชิมและได้รีวิวมาการองรสโยเกิร์ตสุดอร่อยของ Pierre Herme ไปเรียบร้อยค่ะ

Macarons – Summer Collection @ Pierre Herme (คลิ้กที่นี่)

 

box 7 new

 

ตอนนี้ถึง Autumn เราก็ไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปชิมรสชาติใหม่ๆ และนำมาบอกกล่าวกันค่ะ

 

PH new

 

 

สำหรับฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ คุณ Pierre Herme ได้นำ Creme Brulee มาเป็นอีกหนึ่งรสชาติชูโรงให้สาวกได้ซื้อหาไปชิมกัน

ปกติ Creme Brulee เป็นขนมหวานฝรั่งเศสสุดคลาสสิคที่ทำจากไข่แดง ครีม นม และ เพิ่มความพิเศษด้วยน้ำตาลทรายแดงด้านบนสุดที่จะเป่าไฟจะกลายเป็นคาราเมลก้อนแข็ง ก่อนจะทานหากเอาช้อนเคาะ แผ่นน้ำตาลบางกรอบก็จะแตกออก ให้เราได้เคี้ยวกรุบๆ ตัดกับ เนื้อเครมบรูเล่นุ่มนิ่มด้านล่าง ใครที่ชอบกลิ่นวนิลาหอมๆ ก็สามารถใส่ในสเต็ปแรกๆที่ทำตัวครีมด้านล่างได้ค่ะ ถ้าเป็นเชฟฝีมือเด็ดๆ ก็มักจะใช้ฝักวนิลาต้มลงไปด้วยเลยก่อนที่จะตักออก ก็จะได้กลิ่นวนิลาหอมแรงและมีตัว Vanilla Bean อยู่ในเนื้อด้วย

 

Homemade Creme Brulee (ลองทำเองที่บ้านค่ะ ปกติด้านบนจะสีน้ำตาลเข้มกว่านีอีกค่ะ)
Homemade Creme Brulee (ลองทำเองที่บ้านค่ะ ปกติด้านบนจะสีน้ำตาลเข้มกว่านีอีกค่ะ)

 

สำหรับมาการองรส  Crème Brulée ของ Pierre Herme ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมชนิดนี้นั้น ทำตัวเนื้อครีมออกมาได้รสสัมผัสนวลๆ รสชาติจะได้รสของคาราเมลนำ ตามมาด้วยกลิ่นหอมจางๆของวนิลาที่เขาว่าใช้ถึงสามชนิดคือที่มาจากเม็กซิโก ตาฮีตีและมาดากัสการ์มารวมกัน

 

PH new 2-2

 

ต้องขอโทษด้วยที่ถ่ายรูปมาสีเหลืองไปหน่อยเลยเห็นไม่ค่อยชัดแต่จริงๆ แล้ว ฝาสองด้านของมาการองรสนี้เป็นคนละสีกันด้วยนะคะ

 

PH new 2-1

 

อีกรสคือ รส Satine ที่เป็นส้ม เสาวรส และครีมชีส

 

PH new 1

 

รสนี้นี่น่าจะถูกใจคนชอบรสออกไปทางผลไม้หอมๆ หวานอมเปรี้ยวให้ความสดชื่น

ครีมชีสของที่นี่ไม่ได้ออกเปรี้ยวรสจะกลมๆ ไม่แหลมเด่นไปทางใดทางหนึ่งค่ะ ต่างกับรสแนวโยเกิร์ตของคอลเลคชั่นก่อนที่ใจถึงทำรสออกมาเปรี้ยวจัดแต่อร่อยถึงใจ

 

และสุดท้ายเอาใจคนรักช็อกโกแลตกันสุดๆ กับรส Infiniment Chocolat Perou ที่เป็นดาร์กช็อกโกแลต 64% จากเปรู

 

PH new 3-2

 

ตัวช็อกโกแลตนั้นเข้มข้นจนรสออกอมเปรี้ยวนิดๆ

ที่ชอบคือรสนี้มีเกล็ดน้ำตาลอยู่ด้านนอก ให้รสสัมผัสกรุบกรอบเข้าท่าไปอีกแบบ

ใครที่ชอบช็อกโกแลตคงหลงรักรสนี้หมดใจ และข่าวดีไปกว่านั้นคือที่นี่มีรสช็อกโกแลตหลายตัวเพราะทำจากช็อกโกแลตที่มาจากหลายแหล่ง อย่างดาร์กช้อกโกแลตเข้มข้นที่ทำจากช็อกโกแลตที่มาจากบราซิลก็มี

 

PH new 3-1

 

นอกจากสามรสนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายรสที่ส่วนตัวถูกใจมากๆ อยากแนะนำให้ได้ไปชิมกัน

 

อย่าง INFINIMENT ROSE (Rose & Rose Petal) 
ถือเป็นรส Signature ยืนพื้นที่ต้องมีตลอดเพราะคนนิยมกันมาก รสหวานละมุนละไมกลิ่นหอมของกุหลาบอบอวลในปาก ครีมข้างในนุ่มนวลสุดๆ

 

macaron 9

 

INFINIMENT PISTACHE (Pistachio)
มาการองพิสตาชิโอที่ตัวรสถั่วพิสตาชิโอเน้นๆเข้มถูกใจมาก ตัวครีมเนียนข้น จริงๆก็ถือว่าหวานไม่มากแล้ว แต่ส่วนตัวชอบหวานน้อยเลยยังรู้สึกว่าหวานไปนิดค่ะ

 

macaron2

 

 

INFINIMENT MANDARINE (Mandarin Orange) 
อันนี้รสส้มมากๆค่ะ แบบส้มอมเปรี้ยวอมหวาน ด้านในมีลูกเล่นเข้าใจว่าเป็นเปลือกส้มเชื่อมชิ้นเล็กๆแทรกอยู่ด้วย

 

macaron4
INFINIMENT CARAMEL (Salted-Butter Caramel)
อันนี้ไม่ค่อยรู้สึกความเป็น salted caramel เท่าไรเพราะมีความเค็มน้อยมาก หวานน้อยจนแทบเรียกว่าไม่หวานเลยจะดีกว่า แต่เข้มข้นได้ใจสุดๆ after taste จะรู้สึกขมเล็กๆ คล้ายๆ แนว burnt caramel มากกว่า เดาว่าใครชอบกาแฟน่าจะชอบรสนี้มากอยู่ค่ะ

 

macaron1

INFINIMENT VANILLE (Vanillas from Tahiti, Mexico & Madagascar)

รสวนิลานั้นครีมเนียนได้ใจแบบ Rich and Creamy สุดๆ มีเม็ดๆของตัว vanilla bean เห็นชัด

ว่ากันว่าทดสอบร้านขนมกับร้านไอศกรีมนั้นต้องวัดกันที่รสวนิลา แน่นอนว่าร้านนี้ผ่านฉลุยแบบนอนมาเลยทีเดียว

 

macaron3

 

 

ถึงตรงนี้หลายๆ คนก็คงอยากทราบถึงสนนราคาของมาการองหน้าตาหน้ากินของที่นี่

Pierre Hermé ไม่ขาย Macaron เป็นชิ้นแต่ขายเป็นกล่องขนาดต่างๆ ค่ะ

 

macaron5

 

โดยกล่องเล็กที่สุดคือกล่อง 7 ชิ้นที่ราคาอยู่ที่ 980 บาท

กล่อง 12 ชิ้น ราคา 1580 บาท

และกล่อง 24 ชิ้นนั้น ราคา 3100 บาทค่ะ

 

ราคาดูสูงน่ากลัวพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพและรสชาติที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่เท่านั้นก้ถือว่าคุ้มค่ะ

ใครไม่อยากพลาดรสใหม่ๆ เหล่านี้อย่าลืมแวะไปชิมก่อนจะหมดฤดูใบไม้ร่วงนะคะ

Comments

comments