เมื่อนึกถึงร้านอาหารแบบไคเซกิที่เสิร์ฟอาหารทีละจานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นแล้ว ร้าน Umenohana ก็คงจะเป็นชื่อแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจ ด้วยความเป็นร้านอาหารระดับพรีเมียมที่พิถีพิถันทั้งในการคัดสรรวัตถุดิบและการบริการจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในหมู่ผู้ชื่่นชอบอาหารญี่ปุ่น
ร้าน Umenohana ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Nihonmura Mall ในซอยทองหล่อ 13 การตกแต่งร้านนั้นถอดแบบมาจากต้นฉบับของร้านในญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าตั้งแต่ก้าวแรกที่เราได้ย่างเหยียบเข้าไปเราก็ได้สัมผัสกับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนับแต่การตกแต่งภายในไปจนถึงต้นบ๊วยอันสวยงามอันเป็นที่มาของชื่อ Umenohana ซึ่งแปลว่าดอกบ๊วย
ในโอกาสที่ ร้าน Umenohana ครบรอบสามปีในเดือนกันยายนนี้ ทางร้านนำเอาชุด signature ยอดฮิตอย่าง Umenohanazen ที่เป็นไคเซกิชุดใหญ่ มีถึง 13 รายการด้วยกันมาจัดโปรโมชันลดราคาเหลือเพียง 1000 บาท เท่านั้น จากราคาปกติที่ 1250 บาท
เราจะมาพาคุณไปลิ้มรสแต่ละจานของชุด Umenohanazen กันค่ะ
ชุดนี้เริ่มด้วยเต้าหู้สามแบบ
มี Mineoka Tofu เต้าหู้นมสดที่ทำจากนมและครีมสด นุ่มเนียนเป็นเอกลักษณ์ รสกลมกล่อม เพิ่มความหวานอมเปรี้ยวด้วยซอสยูสุด้านบน Fresh Yuba ฟองเต้าหู้บางๆ รสอ่อนๆ ทานง่าย และ Taraba Jelly เยลลี่ที่มีส่วนผสมของซอสปูและซอสพอนซึ ด้านในเป็นเนื้อปู ผักญี่ปุ่นและฟองเต้าหู้รสชาติอ่อนๆ กำลังดี
ตามมาด้วย Steamed Egg Custard ไข่ตุ๋นอุ่นๆ เนื้อนวล
ให้กินเนื้อกันบ้าง กับจาน Kampachi sashimi
ก่อนที่จะตื่นตาไปกับขนมจีบเต้าหู้ที่ประดิดประดอยมาอย่างสวยงาม
Tofu Shumai เป็นขนมจีบเต้าหู้ที่ใช้ทั้งเนื้อหมูและไก่ ด้านบนมีซอสมัสตาร์ดเผ็ดนิดๆ มาช่วยเพิ่มรสชาติ เสิร์ฟร้อนๆ ควันฉุย
ต่อด้วยเมนูที่ดูรักสุขภาพกับรายการ รากบัวซอสเต้าหู้ ที่นำรากบัวไปบดแล้วทอด ก่อนจะราดด้วยซอสฟองเต้าหู้ รากบัวนั้นยังเหลือรสสัมผัสกรุบๆ เคี้ยวเพลิน
เมนูเต้าหู้ยังมาให้ชิมกันไม่หยุดหย่อน โดยทางร้านจะนำเต้าหู้สดที่ยังเหลวอยู่มาตั้งไฟตรงหน้าจนแข็งตัวได้ที่ ก็จะตักเต้าหู้นุ่มๆ ขึ้นมาให้ทาน
โดยซอสมีสองแบบ แบบแรกเป็น ซอสผัก ที่รสชาติอ่อนๆ ทานง่าย ทำให้ได้รับรสชาติและกลิ่นหอมจากเต้าหู้เต็มที่
ส่วนแบบที่สองเป็น ซอสมาโบ รสชาติเข้มข้น
ถัดไปเป็นเมนูเต้าหู้ปลา ที่นำเนื้อปลาไปบดกับเต้าหู้แล้วทอดจนข้างนอกกรอบนิดๆ บีบมะนาวทานคู่กันไป ได้อารมณ์
แม้จะหลายจานผ่านไป แต่เราก็ยังสู้ไม่ถอยเพราะทางร้านมีเมนูเด็ดอีกหลายเมนูรออยู่
ตั้งแต่ Namafu Dengaku โมจิปิ้ง เมนูโบราณหาทานยาก ที่หาได้ที่นี่ทั้งรสมิโซยุสุ และรสสมุนไพรญี่ปุ่น
ไปจนถึงกราแตงฟองเต้าหู้ชีสยืดที่ด้านบนกรอบๆ ด้านล่างนุ่มๆ กินได้ไม่รู้เบื่อ
ก่อนจะจบชุดไคเซกิแบบญี่ปุ่นก็แน่นอนว่าต้องมีข้าวมาตบท้าย
โดยจะเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเป็นผักดอง และซุปมิโซ
สำหรับใครที่อยากลองเมนูอื่นๆ ไฮไลท์เมนูเด่นของทางร้านก็จะมี
Kuroge Wagyu Yogan Yaki ที่นำเนื้อวัววากิวอย่างดีจากบนเกาะคิวชูมาย่างกับเนยกระเทียมบนหินลาวาร้อนฉ่า เนื้อแทรกลายมันอย่างดีของที่นี่การันตีความนุ่ม
และเมนูปูทาราบะ ที่ใครๆ มาก็ไม่ค่อยพลาดที่จะสั่งปูเนื้อแน่นหวานจานนี้มาลองกัน
Taraba Kani Seiro Mushi or Taraba Kani Sumibiyaki ที่สามารถเลือกแบบนึ่งหรือแบบย่างถ่านก็ได้ ส่วนตัวอยากแนะนำให้เลือกนึ่งเพราะเนื้อจะออกมานุ่มและไม่แห้งจนเกินไป ปูที่นี่สดหวานมาก ทานกับซอสเปรี่ยวสูตรเฉพาะของร้าน และสามารถเติมยุซุโคโช (Yuzu Kocho) ที่ทำจากเปลือกของส้มยูซุรสอมเปรี้ยว ออกเผ็ดนิดๆ ขมหน่อยๆ ที่ปลายลิ้นที่ยิ่งเสริมให้รสหวานของเนื้อปูเด่นขึ้นไปอีก
และปิดท้ายด้วยของหวานในชุด ซึ่งวันนี้เราเลือก Tofu Pudding เต้าหู้เนื้อนุ่มที่ราดมาด้วยคุโรมิสึ
และ วาราบิโมจิที่นุ่มและหนืดกำลังดี
แน่นอนว่าอาหารมื้อนี้ที่ Umenohana ก็ทำให้เราประทับใจไม่ผิดหวังเช่นเคย จึงไม่อยากให้คุณๆ พลาดกับโปรโมชันดีๆ ทั้ง Umenohanazen ที่มาจัดโปรโมชันลดราคาเหลือเพียง 1000 บาท เท่านั้น จากราคาปกติที่ 1250 บาท และ ชุด Umenohana Moriawase อีกชุดไคเซกิขายดีมาจัดโปรโมชันลดเหลือ 1000บาท จากราคาเต็ม 1650 บาท อีกด้วย หมดเขต 30 กันยายนนี้แล้ว อย่าลืมไปชิมกันนะคะ