สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้ขนซีฟู้ดมาทั้งทะเลมาให้คุณได้ลองชิม กับร้านอาหารทะเลสุดอร่อยราคาย่อมเยานามว่า The Cockle Samyan
ร้าน The Cockle นั้น เดิมทีเคยอยู่ที่พระรามสี่ ก่อนจะระเห็จระเหินไปถึงไนท์บาร์ซาร์ก่อนจะกลับมาเป็นร้านเล็กๆ น่ารักอยู่ที่ชั้นล่างของ I am Park Chula ให้เราได้หาชิมกันง่ายๆ จะเดินทางจาก MRT สามย่านก็ได้ จาก BTS สนามกีฬาก็ดี
บรรยากาศของร้านนั้นนั่งสบาย เพราะแม้ร้านเล็กแต่รอบด้านเป็นกระจกทำให้รู้สึกโล่งโปร่งไม่อึดอัด
ภายในตกแต่งง่ายๆ ให้ความรู้สึกราวกับได้ไปล่องเรือหาปลาอยู่ในทะเลก็ไม่ปาน
ร้าน The Cockle นั้นโด่งดังมาจากการจัดบุฟเฟต์อาหารทะเลในราคาที่ถูกจนเหลือเชื่อ เข้าใจว่าหลายปีก่อนอยู่ที่ 399บาท จนค่อยๆ ขยับเพิ่มมาหยุดอยู่ที่ 550บาท net โดยสั่งได้ทุกอย่างบนเมนู รวมไปถึงเครื่องดื่มและขนมหวานในเวลาสองชั่วโมง ซึ่งเอาเข้าจริง ทางร้านก็แทบจะไม่จับเวลา มักปล่อยให้ลูกค้าได้ค่อยๆ ทานอย่างสบายอารมณ์
คุณเจ้าของร้านเป็นหนุ่มน้อยอัธยาศัยดี อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ ที่คอยมาช่วยดูแลลูกค้าด้วยตัวเองที่หน้าร้านอยู่ตลอด คอยแนะนำอาหารจานเด็ดรวมถึงชวนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ทำให้เราได้รู้เรื่องราวหลายอย่างตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบ ที่เจ้าของและลูกน้องในร้านตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าไปเลือกของสดคุณภาพดีมาจากสะพานปลาในทุกๆ วัน การจัดการในร้านที่มุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โดยหนุ่มไฟแรงคนนี้มีความตั้งใจที่จะให้ลูกค้าได้ทานอาหารทะเลอร่อยๆ ในราคาย่อมเยา ยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกทึ่งกับความคิดและความเป็นผู้ใหญ่เกินตัวของคุณเจ้าของ
ว่าแล้วก็มาเริ่มชมรายการอาหารทะเลหลากหลายที่ที่นี่มีให้เลือกสรรกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน คือกุ้งทอดราดซอสมะขาม (160B)
จานนี้เด็ดมากเพราะกุ้งนั้นมาตัวโตๆ
ซอสมะขามเองก็เป็นสูตรพิเศษที่ใช้ความพิถีพิถัน โดยแทนที่จะใส่หอมเจียวลงไปเลยเหมือนที่นิยมทำกันในการทำซอสไข่ลูกเขย ของที่นี่จะค่อยๆ ละลายมะขามเปียก
ทำซอสจนเสร็จก่อนแล้วจึงใส่หอมแดงซึ่งเจียวมาจนกลิ่นหอมลงไปอีกที
ต่อมาเป็น กุ้งแช่น้ำปลา (120B)
จานนี้แซ่บถึงใจ แถมให้กุ้งมาแบบไม่หวง
ตามมาด้วยสลัดกุ้ง (150B)
ที่จัดเรียงมาสวยงามพร้อมกับแตงกวาและมะเขือเทศสด
กากีลอยแพ (145B) เมนูชื่อเก๋ ที่เป็นกุ้งฟู พร้อมด้วยตะไคร้ทอดปูวางเป็นแพข้างใต้ ส่วนน้ำสีชมพูที่เห็นเป็นน้ำบีทรูทผสมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด
กุ้งทอดกะเทียม (170B)
กุ้งป็อบไร้แป้ง (150B)
ยำมะม่วงกุ้งสด (160B) รสเปรี้ยวจี๊ดโดนใจ
ยำมะม่วงกุ้งฟู (180B) กรอบอร่อย
และ สุดท้ายในหมวดกุ้ง ต้มยำกุ้ง (180B) รสซีดซ้าด
ชอบมากๆ ที่ทางร้านทำออกมารสจัดจ้าน หนักเผ็ดและเค็ม มากกว่าหวาน
คุณเจ้าของร้านเดินมาขอโทษว่ากุ้งตัวเล็กไปหน่อย ปรกติจะใช้กุ้งไซส์ใหญ่สำหรับเมนูนี้ โอ้โห จะใหญ่กว่านี้อีกหรือคะเนี่ย
จบหมวดกุ้งมาต่อหมวดปูกันบ้างดีกว่า
เด็ดสุดต้องนี่เลย ปูม้าผัดผงกะหรี่ (220B)
หรือใครขี้เกียจมือเลอะจะสั่งเป็นเนื้อปูผัดผงกะหรี่ (170B) แทนก็ยังไหว
ชอบปูผัดผงของที่นี่มากเพราะทำรสชาติมากลมกล่อม ไม่ได้ออกหวานเกินเหมือนที่หลายๆ ที่ชอบทำกัน
ถ้าใครทานปูม้าดิบได้ก็ลองนี่เลย ยำปูม้า (175B)
คือยำของที่นี่ปรุงรสมาแซ่บทุกอัน สั่งได้เลยรับรองไม่ผิดหวังค่ะ
หรือถ้าอยากกินเนื้อปูแกะแล้ว ก็จัดเนื้อปูนึ่งกระเทียม (150B)กันไปเลย
โห แค่กุ้งกับปูก็ดูจนจุกแล้ว แต่แน่นอนว่าที่ร้านยังไม่หมดเท่านี้ค่ะ
ถ้าใครชอบทานปลาหมึก ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (170B) เป็นไฟลท์บังคับ
ใครไม่สั่งนี่พลาดมากค่ะเพราะทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจัด ไข่เค็มข้นๆ เยิ้มๆ ได้อารมณ์มาก
หรือจะกินเป็นหมึกนึ่งมะนาว (170B) ก็อร่อยถูกใจ
ใครที่ชอบหอย ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายสุดๆ
ตั้งแต่ หอยนางรมทรงเครื่อง (190B)
ที่มีเครื่องมาครบทั้งพริกสด พริกเผา กระเทียมสด กระเทียมเจียว
หอยแครงลวก (90B)
ที่มาคู่กับซอสพิเศษสูตรลับเฉพาะของที่นี่อีกเช่นกัน
รวมไปถึง หอยลายลายผัดพริกเผา (120B) ที่ทำรสชาติมาได้แบบมาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันดี
โห เยอะมาก เขียนเองยังเริ่มหิวเองอีกรอบเลยค่ะ
ที่ถือได้ว่าเป็นอีกสุดยอดของร้านนี้คือเมนู ปลากระพงทอดน้ำปลา (350B)
เพราะร้านนี้ไม่ทำแบบแห้งๆ กรอบๆ แต่จะทำมาแบบกรอบนอกนุ่มใน คือฟินมากถึงฟินที่สุด
ไม่อยากบอกวีรกรรมเลยค่ะ ว่ามา 8 คน สั่งปลาไป 5 ตัว
อีกอย่างที่ลืมบอกไปเสียได้คือเรื่องน้ำจิ้มทะเลของที่นี่ค่ะ
น้ำจิ้มเป็นสูตรที่ทางร้านลองผิดลองถูกจนอยู่ตัวได้เป็นรสชาติที่ถูกใจลูกค้า รสออกเปรี้ยวนำ เผ็ดกำลังพอดี ยิ่งเอามาจิ้มกับปลากระพงทอดน้ำปลาเมนูนี้นี่ไร้เทียมทานจริงๆ
นอกจากกุ้งหอยปูปลา ที่นี่ก็มีข้าวผัดให้เลือกทั้ง ข้าวผัดปู (120B) และข้าวผัดกุ้ง (120B)
หรืออยากกินไข่เจียวร้อนๆ ไข่เจียวกุ้ง (80B) กับไข่เจียวปู (80B) เค้าก็มี
แถมถ้าอยากทานผัดผัก กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา (90B) ของที่นี่ก็อร่อยไม่เป็นสองรองใคร
ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างน้ำผลไม้ปั่น (79B) ที่ลงทุนใช้ผลไม้สดๆ ปั่นให้เห็นจะจะ ทั้งแอปเปิ้ล มะนาว และแตงโม ทำให้ออกมาอร่อยชื่นใจได้รสจริงๆ แบบธรรมชาติ
โดยรวมแล้วร้านนี้ได้คะแนนไปสูงมาก เพราะรสชาติเด็ดถูกใจทุกจาน ยังไม่มีจานไหนหลุดให้หาเรื่องติได้ อาหารทะเลก็สดจนรู้สึกได้ กินกันมหาศาลยัดทะนานกันขนาดนี้ยังไม่มีใครในแก๊งค์ท้องเสีย แปลว่าของดีจริง
ส่วนที่พอจะแนะนำเพิ่มเติมให้ปรับปรุงได้ก็จะเป็นส่วนของข้าวผัดและไข่เจียวปูค่ะ เพราะเหมือนที่นี่จะใช้ปูม้า ทำให้ในเนื้อปูยังมีแกนแข็งๆ ติดอยู่ทำให้ทานยากอยู่สักหน่อยค่ะ
ตอนเราไปกินนั้นทางร้านยังมีโปรโมชันบุฟเฟต์ทานไม่อั้น 550 บาท net อยู่ ทำให้คุ้มสุดๆ จนกลัวว่าร้านเค้าจะเจ๊งคามือเพราะสั่งกันไม่บันยะบันยังเสียเท่าไร
ล่าสุดเหมือนทางร้านจะหยุดให้บริการบุฟเฟต์ชั่วคราว ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ถ้าดูจากคุณภาพและปริมาณ สั่งเป็นจานๆ แบบอะลาคาร์ทที่ราคานี้ก็ยังคุ้มค่าค่ะ
สรุปว่าแนะนำร้านนี้มากๆ และยังไงเสียลองโทรเช็คกับทางร้านดูนะคะ ว่าโปรโมชันบุฟเฟต์จะกลับมาอีกเมื่อไร คาดว่าจะได้กินกันเต็มอิ่มจุใจเช่นเคยในเวลาไม่นานเกินรอค่ะ
จองได้ที่นี่ คลิ้กเลย!
***
อย่าลืมติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com
และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie ค่ะ