เดอะคอคเคิล สามย่าน…ร้านซีฟู้ดที่ให้คุณอิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ รสชาติเด็ดในราคามิตรภาพ

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้ขนซีฟู้ดมาทั้งทะเลมาให้คุณได้ลองชิม กับร้านอาหารทะเลสุดอร่อยราคาย่อมเยานามว่า The Cockle Samyan

Cockle-8

ร้าน The Cockle นั้น เดิมทีเคยอยู่ที่พระรามสี่ ก่อนจะระเห็จระเหินไปถึงไนท์บาร์ซาร์ก่อนจะกลับมาเป็นร้านเล็กๆ น่ารักอยู่ที่ชั้นล่างของ I am Park Chula ให้เราได้หาชิมกันง่ายๆ จะเดินทางจาก MRT สามย่านก็ได้ จาก BTS สนามกีฬาก็ดี

บรรยากาศของร้านนั้นนั่งสบาย เพราะแม้ร้านเล็กแต่รอบด้านเป็นกระจกทำให้รู้สึกโล่งโปร่งไม่อึดอัด

The Cockle 1

ภายในตกแต่งง่ายๆ ให้ความรู้สึกราวกับได้ไปล่องเรือหาปลาอยู่ในทะเลก็ไม่ปาน

Cockle-22

ร้าน The Cockle นั้นโด่งดังมาจากการจัดบุฟเฟต์อาหารทะเลในราคาที่ถูกจนเหลือเชื่อ เข้าใจว่าหลายปีก่อนอยู่ที่ 399บาท จนค่อยๆ ขยับเพิ่มมาหยุดอยู่ที่ 550บาท net โดยสั่งได้ทุกอย่างบนเมนู รวมไปถึงเครื่องดื่มและขนมหวานในเวลาสองชั่วโมง ซึ่งเอาเข้าจริง ทางร้านก็แทบจะไม่จับเวลา มักปล่อยให้ลูกค้าได้ค่อยๆ ทานอย่างสบายอารมณ์

Cockle-24

คุณเจ้าของร้านเป็นหนุ่มน้อยอัธยาศัยดี อายุเพียงยี่สิบกว่าๆ ที่คอยมาช่วยดูแลลูกค้าด้วยตัวเองที่หน้าร้านอยู่ตลอด คอยแนะนำอาหารจานเด็ดรวมถึงชวนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ทำให้เราได้รู้เรื่องราวหลายอย่างตั้งแต่ที่มาของวัตถุดิบ ที่เจ้าของและลูกน้องในร้านตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าไปเลือกของสดคุณภาพดีมาจากสะพานปลาในทุกๆ วัน การจัดการในร้านที่มุ่งเน้นความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โดยหนุ่มไฟแรงคนนี้มีความตั้งใจที่จะให้ลูกค้าได้ทานอาหารทะเลอร่อยๆ ในราคาย่อมเยา ยิ่งคุยก็ยิ่งรู้สึกทึ่งกับความคิดและความเป็นผู้ใหญ่เกินตัวของคุณเจ้าของ

ว่าแล้วก็มาเริ่มชมรายการอาหารทะเลหลากหลายที่ที่นี่มีให้เลือกสรรกันเลยดีกว่าค่ะ

เริ่มจากเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน คือกุ้งทอดราดซอสมะขาม (160B)

The Cockle 7

จานนี้เด็ดมากเพราะกุ้งนั้นมาตัวโตๆ

Cockle-61

ซอสมะขามเองก็เป็นสูตรพิเศษที่ใช้ความพิถีพิถัน โดยแทนที่จะใส่หอมเจียวลงไปเลยเหมือนที่นิยมทำกันในการทำซอสไข่ลูกเขย ของที่นี่จะค่อยๆ ละลายมะขามเปียก

Cockle-70

ทำซอสจนเสร็จก่อนแล้วจึงใส่หอมแดงซึ่งเจียวมาจนกลิ่นหอมลงไปอีกที

The Cockle 6

ต่อมาเป็น กุ้งแช่น้ำปลา (120B) 

Cockle-29

จานนี้แซ่บถึงใจ แถมให้กุ้งมาแบบไม่หวง

The Cockle 2

ตามมาด้วยสลัดกุ้ง (150B)

Cockle-132

 ที่จัดเรียงมาสวยงามพร้อมกับแตงกวาและมะเขือเทศสด

The Cockle 8

กากีลอยแพ (145B) เมนูชื่อเก๋ ที่เป็นกุ้งฟู พร้อมด้วยตะไคร้ทอดปูวางเป็นแพข้างใต้ ส่วนน้ำสีชมพูที่เห็นเป็นน้ำบีทรูทผสมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด

IMG_7516

กุ้งทอดกะเทียม (170B)

IMG_7534

กุ้งป็อบไร้แป้ง (150B)

DSCF9898

ยำมะม่วงกุ้งสด (160B) รสเปรี้ยวจี๊ดโดนใจ

IMG_7541

ยำมะม่วงกุ้งฟู (180B) กรอบอร่อย

Cockle-106

และ สุดท้ายในหมวดกุ้ง ต้มยำกุ้ง (180B) รสซีดซ้าด

Cockle-136

ชอบมากๆ ที่ทางร้านทำออกมารสจัดจ้าน หนักเผ็ดและเค็ม มากกว่าหวาน

Cockle-143

คุณเจ้าของร้านเดินมาขอโทษว่ากุ้งตัวเล็กไปหน่อย ปรกติจะใช้กุ้งไซส์ใหญ่สำหรับเมนูนี้ โอ้โห จะใหญ่กว่านี้อีกหรือคะเนี่ย

The Cockle 12

จบหมวดกุ้งมาต่อหมวดปูกันบ้างดีกว่า

เด็ดสุดต้องนี่เลย ปูม้าผัดผงกะหรี่ (220B) 

Cockle-150

หรือใครขี้เกียจมือเลอะจะสั่งเป็นเนื้อปูผัดผงกะหรี่ (170B) แทนก็ยังไหว

the cockle

ชอบปูผัดผงของที่นี่มากเพราะทำรสชาติมากลมกล่อม ไม่ได้ออกหวานเกินเหมือนที่หลายๆ ที่ชอบทำกัน

The Cockle 11

ถ้าใครทานปูม้าดิบได้ก็ลองนี่เลย ยำปูม้า (175B) 

IMG_7511

คือยำของที่นี่ปรุงรสมาแซ่บทุกอัน สั่งได้เลยรับรองไม่ผิดหวังค่ะ

หรือถ้าอยากกินเนื้อปูแกะแล้ว ก็จัดเนื้อปูนึ่งกระเทียม (150B)กันไปเลย

The Cockle 3

โห แค่กุ้งกับปูก็ดูจนจุกแล้ว แต่แน่นอนว่าที่ร้านยังไม่หมดเท่านี้ค่ะ

ถ้าใครชอบทานปลาหมึก ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (170B) เป็นไฟลท์บังคับ

Cockle-122

ใครไม่สั่งนี่พลาดมากค่ะเพราะทำออกมาได้รสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มจัด ไข่เค็มข้นๆ เยิ้มๆ ได้อารมณ์มาก

The Cockle 9

หรือจะกินเป็นหมึกนึ่งมะนาว (170B) ก็อร่อยถูกใจ

IMG_7521

ใครที่ชอบหอย ที่นี่มีให้เลือกหลากหลายสุดๆ

ตั้งแต่ หอยนางรมทรงเครื่อง (190B)

IMG_7509

ที่มีเครื่องมาครบทั้งพริกสด พริกเผา กระเทียมสด กระเทียมเจียว

IMG_7510

หอยแครงลวก (90B)

Cockle-39

ที่มาคู่กับซอสพิเศษสูตรลับเฉพาะของที่นี่อีกเช่นกัน

IMG_7546

รวมไปถึง หอยลายลายผัดพริกเผา (120B) ที่ทำรสชาติมาได้แบบมาตรฐานที่เราคุ้นเคยกันดี

IMG_7523

โห เยอะมาก เขียนเองยังเริ่มหิวเองอีกรอบเลยค่ะ

ที่ถือได้ว่าเป็นอีกสุดยอดของร้านนี้คือเมนู ปลากระพงทอดน้ำปลา (350B)

เพราะร้านนี้ไม่ทำแบบแห้งๆ กรอบๆ แต่จะทำมาแบบกรอบนอกนุ่มใน คือฟินมากถึงฟินที่สุด

Cockle-40

ไม่อยากบอกวีรกรรมเลยค่ะ ว่ามา 8 คน สั่งปลาไป 5 ตัว

อีกอย่างที่ลืมบอกไปเสียได้คือเรื่องน้ำจิ้มทะเลของที่นี่ค่ะ

The Cockle 10

น้ำจิ้มเป็นสูตรที่ทางร้านลองผิดลองถูกจนอยู่ตัวได้เป็นรสชาติที่ถูกใจลูกค้า รสออกเปรี้ยวนำ เผ็ดกำลังพอดี ยิ่งเอามาจิ้มกับปลากระพงทอดน้ำปลาเมนูนี้นี่ไร้เทียมทานจริงๆ

นอกจากกุ้งหอยปูปลา ที่นี่ก็มีข้าวผัดให้เลือกทั้ง ข้าวผัดปู (120B) และข้าวผัดกุ้ง (120B)

The Cockle 4

Cockle-101

หรืออยากกินไข่เจียวร้อนๆ ไข่เจียวกุ้ง (80B) กับไข่เจียวปู (80B) เค้าก็มี

แถมถ้าอยากทานผัดผัก กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา (90B) ของที่นี่ก็อร่อยไม่เป็นสองรองใคร

the cockle 15

ปิดท้ายกันด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ อย่างน้ำผลไม้ปั่น (79B) ที่ลงทุนใช้ผลไม้สดๆ ปั่นให้เห็นจะจะ ทั้งแอปเปิ้ล มะนาว และแตงโม ทำให้ออกมาอร่อยชื่นใจได้รสจริงๆ แบบธรรมชาติ

Cockle-93

โดยรวมแล้วร้านนี้ได้คะแนนไปสูงมาก เพราะรสชาติเด็ดถูกใจทุกจาน ยังไม่มีจานไหนหลุดให้หาเรื่องติได้ อาหารทะเลก็สดจนรู้สึกได้ กินกันมหาศาลยัดทะนานกันขนาดนี้ยังไม่มีใครในแก๊งค์ท้องเสีย แปลว่าของดีจริง
ส่วนที่พอจะแนะนำเพิ่มเติมให้ปรับปรุงได้ก็จะเป็นส่วนของข้าวผัดและไข่เจียวปูค่ะ เพราะเหมือนที่นี่จะใช้ปูม้า ทำให้ในเนื้อปูยังมีแกนแข็งๆ ติดอยู่ทำให้ทานยากอยู่สักหน่อยค่ะ

ตอนเราไปกินนั้นทางร้านยังมีโปรโมชันบุฟเฟต์ทานไม่อั้น 550 บาท net อยู่ ทำให้คุ้มสุดๆ จนกลัวว่าร้านเค้าจะเจ๊งคามือเพราะสั่งกันไม่บันยะบันยังเสียเท่าไร

ล่าสุดเหมือนทางร้านจะหยุดให้บริการบุฟเฟต์ชั่วคราว ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ถ้าดูจากคุณภาพและปริมาณ สั่งเป็นจานๆ แบบอะลาคาร์ทที่ราคานี้ก็ยังคุ้มค่าค่ะ

สรุปว่าแนะนำร้านนี้มากๆ และยังไงเสียลองโทรเช็คกับทางร้านดูนะคะ ว่าโปรโมชันบุฟเฟต์จะกลับมาอีกเมื่อไร คาดว่าจะได้กินกันเต็มอิ่มจุใจเช่นเคยในเวลาไม่นานเกินรอค่ะ

จองได้ที่นี่ คลิ้กเลย! 

 

 

 

 

***

อย่าลืมติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com

และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie ค่ะ

Comments

comments