สวัสดีค่ะ
วันนี้จะพาไปชิมร้านสเต็กและฮัมบากุสไตล์ญี่ปุ่นที่เหมาะกับการพาครอบครัวไปอร่อยร่วมกันค่ะ
Steak no Don นั้นเป็นร้านที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่น มีสาขากว่า 70 สาขา และเราก็โชคดีกันอีกแล้วที่ทางร้านตัดสินใจขยายสาขามาเปิดประสบการณ์ family steak house ให้เราได้ลิ้มลองกันที่เมืองไทย
โดยสาขาแรกในไทยนั้นเปิดขึ้นที่ด้านหน้าของเมืองหิมะ Snow Town Bangkok ที่ Gateway Ekamai
ด้านหน้าร้านจะถัดจากทางเข้า Snow Town มาเล็กน้อย
ที่ชอบมากสำหรับร้านนี้คือ ทางร้านมีทางเข้าสองด้าน ทั้งจากด้านหน้าและจากใน Snow Town เอง
ซึ่งแปลว่าถ้าเราอยากแอบมองด้านในหรือสัมผัสละไอเย็นจากเมืองหิมะโดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตูเพื่อเข้าไป ร้านนี้ก็เป็นที่ที่คุณยลโฉมเมืองหิมะกันได้ค่ะ
ด้านในร้านนั้นกว้างขวาง
มีหลายโซนให้เลือก เช่นว่าอยากนั่งหันหน้าออกไปชมเมืองหิมะ ก็เดินลึกเข้ามาด้านหลังได้เลย
สำหรับอาหาร ก็จะเป็นเมนูต้นตำรับของทางร้านเหมือนตามต้นทางที่ญี่ปุ่นเขาล่ะค่ะ
นอกจากเมนูเหมือน มาตรฐานแน่นอนว่าก็ต้องรักษาระดับไม่ให้ผิดไปจากร้านแม่
เหตุนี้ทางร้านเองจึงนำเข้าวัตถุดิบหลายอย่าง เช่นถ้าเป็นอาหารทะเล ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ หอยนางรม และอีกมากมาย ก็จะนำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรง เลยไม่น่าแปลกใจที่หอยจะตัวโตอวบอ้วนอย่างที่เห็น
หอยเชลล์นึ่ง 299B
หอยนางรมนึ่ง 249B
ส่วนเนื้อวัวเพื่อให้มีคุณภาพที่ดีไม่แพ้กัน ทางร้านเลือกสรรที่จะใช้เนื้อวัวเกรดดีจากออสเตรเลียมาให้ลูกค้าได้ทานกัน
อย่างเมนู Rib Loin Steak (599B) ที่เป็นหนึ่งใน signature dish ของร้านนั้น ก็ทำมาได้นุ่มชุ่มฉ่ำ ตัวเนื้อสันในจะเป็นแบบที่แทรกมันน้อย ความสุกมาพอดีๆ ตามที่สั่ง สมกับที่เป็นอาหารจานแนะนำ
ทางร้านย้ำเลยว่า หากความสุกที่ทำมานั้นไม่พอดี สามารถแจ้งกับบริกรแล้วทางร้านจะทำจานใหม่ให้ทันที
ส่วนซอสนั้น มีสูตรมาตรฐาน
หากสั่งสเต็กเนื้อสันใน ก็จะมีให้เลือกซอสสเต็กได้หลายแบบ ทั้งซอสหอมหัวใหญ่ และซอสโชยุ
ส่วนสเต็กเนื้อสันนอกนั้นจะเป็นซอสกระเทียม (469B)
ส่วนฮัมบากุ ก็จะมีซอสรสเด็ดเคียงคู่มาเช่นกัน นอกจากซอสหอมหัวใหญ่ และซอสโชยุ ก็ยังจะมีซอสเดมิกราส์ ซอสมะเขือเทศ และซอสเทริยากิให้เลือกตามชอบใจ
ใครที่ชื่นชอบร้านที่ญี่ปุ่น ถ้ามาลองทานที่ไทยจะไม่มีผิดหวังแน่นอนเพราะรสชาติมาตามสูตรกันเป๊ะ ไม่มีผิดเพี้ยน และเพื่อคุณภาพก็มีการเปลี่ยนหมุนเวียนให้สดใหม่อยู่ตลอดเวลา
หนึ่งในจุดเด่นของร้านก็เห็นจะเป็นคำว่าร้านสเต็กสไตล์ครอบครัว เพราะเข้ามาถึงก็เห็นพ่อแม่ลูกหลายคู่มากินกันอยู่อย่างเอร็ดอร่อย เด็กๆ ดูสนุกสนาน เพราะทางร้านก็แสนเอาใจใส่ ดูแลความต้องการของเด็กๆ
อย่างที่เห็นเด็กน้อยสั่งกันเกือบทุกโต๊ะก็จะเป็น เมนูสำหรับเด็ก ที่เสิร์ฟมาในรถดับเพลิงสีแดงแสนน่ารัก
ชอบมากๆ เวลาที่เห็นบริกรเสิร์ฟจานนี้บนโต๊ะ แล้วคุณน้องคุณหนูดีใจกันออกนอกหน้าตาเป็นประกาย
เมนูเด็กของที่นี่มีสองรายการให้เลือกคือ ฮัมบากุสำหรับเด็ก (129B) และ ไก่สำหรับเด็ก (129B) โดยทั้งสองชุดจะมีผัก และผลไม้ จัดมาน่ารักน่าทาน
พอได้เห็นอย่างนี้เราซึ่งความเด็กเหลือน้อยก็อยากจะทานบ้าง เลยสอบถามทางร้าน จึงได้ความว่าที่ร้านไม่ได้จำกัดอายุ ใครอยากทานก็สั่งจานนี้ได้เลย เราจึงไม่พลาดที่จะสั่งมาลองกัน
ผักต้มนั้นหั่นชิ้นเล็กพอดีคำ ต้มมานิ่มพอดีไม่เละแต่ก็หมดกลิ่นเหม็นเขียว เรียกว่าเด็กกินง่ายไม่งอแงแน่ๆ
และพิเศษสุดไปกว่านั้น ช่วงนี้ทางร้านมีลดราคารายการนี้ถึง 50% ซึ่งจานนี้จะเหลือเพียง 65 บาท เท่านั้น
โดยจะต้องนำใบปลิวส่วนลดที่แจกมาด้วยค่ะ
คุ้มค่าคุ้มราคาแถมน่ารักขนาดนี้ ยกสองจานนี้เป็นรายการที่คุณไม่ควรพลาดถ้าได้แวะมาลองทานร้านนี้กันค่ะ
อย่างที่ว่าไว้ว่าฮัมบากุเป็นหนึ่งในจุดเด่นของร้าน ที่มีสูตรให้เบอร์เกอร์เนื้อสับออกมานุ่มอร่อยไม่เหมือนใคร เราเลยเบิ้ล ด้งฮัมบากุ (219B) จานไซส์ผู้ใหญ่ด้วยอีกจาน
ฮัมบากุชิ้นโต เสิร์ฟกับเดมิกราส์ซอสสูตรญี่ปุ่นรสกลมกล่อม เคียงคู่กับ ข้าว ผัก เฟรนช์ฟราย และขนมปังอบ
เฟรนช์ฟรายของที่นี่จะมีเปลือกติดมาด้วยนิดๆ ทอดมากรอบนอกนุ่มใน
ทางร้านกระซิบบอกมาว่า ข้าวและขนมปัง รวมทั้งซุปนั้นเติมได้ไม่อั้นด้วยล่ะค่ะ
โดยซุปจะมีทั้งซุปหัวหอมและซุปสาหร่าย เสิร์ฟร้อนๆ ให้คุณได้อบอุ่นไปกับรสละมุนของซุปใส
นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อวัวอย่าง สเต็กไก่ (249B) ที่มีไก่ชิ้นโต เนื้อแน่น หนังกรอบถึงใจ
เมนู ไก่ทอดคาราอาเกะ (179B) ไก่ทอดก้อนกลม ที่ทำมาได้กรอบและแห้ง ไม่ชุ่มน้ำมันอย่างที่นึกกลัว
และ เมนู หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด (199B) เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลีฝอย และซอสรสเข้มข้น
เมนูอีกกลุ่มที่อร่อยจนลืมพูดถึงไม่ได้คือเมนูพาสต้า
ที่นี้มีทั้ง พาสต้าครีมข้าวโพด (179B) และ พาสต้าซอสมะเขือเทศ (179B)
ส่วนตัวชอบครีมข้าวโพดเป็นพิเศษเพราะหวานนิดๆ รสนุ่มๆ นวลๆ ท่านง่าย ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่
โดยรวมแล้วชอบร้านนี้เพราะของดีมีคุณภาพ รสชาติซอสตามแบบฉบับญี่ปุ่นก็อร่อยลงตัว และเมื่อเทียบกับราคาที่ย่อมเยาแล้วยิ่งได้ใจไปเต็มๆ ตัวร้านเองก็เดินทางไปมาได้สะดวกเพราะเกตเวย์เอกมัยเชื่อมต่อกับบีทีเอสเอกมัย แบบไม่ต้องเดินลงถนนไปให้เหนื่อยยาก
ที่ราคาคุ้มค่าเป็นพิเศษเห็นจะเป็นพวกเซตเมนูอาหารกลางวัน ที่หากทำงานอยู่แถวนั้นคงแวะไปกินบ่อยๆ เป็นแน่ โดยทางร้านจะเปิดให้สั่งเมนูอาหารกลางวันสุดคุ้มทุกรายการได้ถึง 4 โมงเย็นเลยเชียว
นอกจากราคาที่ดีงามตามที่เห็นในเมนูแล้ว บางช่วงทางร้านจะมีโปรโมชันพิเศษ อย่างช่วงนี้หากกดไลค์เพจร้าน ก็จะได้ลดราคาอาหารถึง 10%
และพิเศษสุดกว่านั้น ทุกวันพุธคุณสามารถติดต่อผ่าน inbox เพจทางร้านเพื่อขอรหัสเข้าไปทานเมนู ฮัมบากุได้ ฟรี!
อาหารอร่อย ราคาดีอย่างนี้ แนะนำให้ไปลองเต็มที่ค่ะทุกๆ คน