สวัสดีค่ะ รีวิวนี้เราได้รับเชิญจากห้องอาหารฝรั่งเศส Scarlett Wine Bar & Restaurant ที่โรงแรม Pullman Bangkok Hotel G ให้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ชิมชีสกับ Cheese Master Gérard Poulard ที่นำ Collection
ชีส 2016 Collection of Fromages de France ส่งตรงมาจากประเทศฝรั่งเศสมาให้ทุกท่านได้ลิ้มลองที่ Scarlett
ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant ตั้งอยู่บนชั้น 37 ของโรงแรม Pullman Bangkok Hotel G
สองข้างทางเข้าห้องหารเป็น Wine Cellar และยังมี Dry Ager Machine สำหรับคนรักเนื้อโดยเฉพาะ
ห้องอาหารมีพื้นที่กว้าง มีที่นั่งประมาณ 160 ที่นั่ง แนะนำให้จองมาก่อน เพราะลูกค้าเยอะทุกวันเลยค่ะ ถ้าอยากนั่งด้านนอกชมวิวกรุงเทพฯ ตอนพระอาทิตย์ตก็มีหลายมุมให้เลือกนั่ง
ทานชีสมาก็เยอะแต่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้พบ Cheese Master Gérard Poulard อย่างใกล้ชิด ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีสจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ได้เห็นชีสแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ความรู้ใหม่และประสบการณ์ที่ดีมากทีเดียวค่ะ
Gérard Poulard เป็นที่รู้จักกว้างขวางไปทั่วโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านชีส หรือ “Maitre Fromager” จากการขนานนามและเป็นที่ยอมรับจากร้านอาหารชั้นนำถึง 22 ประเทศทั่วโลกด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะ คัดสรร และ
นำเสนอชีสคุณภาพเยี่ยมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คน อีกทั้งเขาได้จับมือกับลูกชายกวาดรางวัลต่างๆ มากมายจากองค์กรชั้นนำ อาทิ สินค้าบริโภคส่งออกชั้นนำที่อร่อยที่สุดของประเทศฝรั่งเศส (France’s most delectable exports) รางวัลเกียรติยศสำหรับผู้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการเกษตรกรรมของประเทศฝรั่งเศส (The Order of Agricultural Merit) รวมไปถึงรางวัลจากสถาบันสอนทำอาหารชื่อดังของประเทศฝรั่งเศสอย่าง เลอ กอร์ดอง เบลอ (Le Cordon Bleu France) และรางวัล The Prosper Montagné จาก Quality HouseCollection Fromages de France 2016 สุดพิเศษนี้ประกอบไปด้วยชีสชั้นดีส่งตรงจากประเทศฝรั่งเศสมากกว่า 100 ชนิด เน้นเป็นชีสนมแพะมากที่สุด ตามด้วยชีสนมวัวและชีสนมแกะMaster Gérard เลือกชีสบางชิ้นขึ้นมาอธิบายให้ฟัง และเลือกมา 10 ชิ้นให้ชิมกันค่ะ เป็นชีสนมแพะ 5 ชิ้น และชีสนมวัวอีก 5 ชิ้นทานคู่กับ baguette อบร้อนๆและไวน์ขาว ไวน์แดงที่ทางร้านเลือกมาให้ คือ Verget Macon Villages Terres de Pierres 2014 และ Château d’Arche Cru Bourgeois 2010มาดูกันดีกว่าค่ะว่าชีสทั้ง 10 ชิ้นมีอะไรบ้าง (เรียงจากซ้ายไปขวา)
1. Figou Fermier ชีสนมแพะ หอม นุ่ม ตรงกลางสีแดงออกม่วงคือ fig jam ค่ะ รสชาติหวานนำ เปรี้ยวเล็กน้อย ชีสนี้เสิร์ฟเป็นของหวานก็ได้ค่ะ
2. Banon ห่อด้วยใบเกาลัด ผิวมีกลิ่นฉุนเล็กน้อย รสชาติเข้มกว่าชิ้นแรกนิดนึงค่ะ ถ้าตัดแล้วทิ้งไว้นานหน่อยตรงกลางจะเยิ้มเหมือนในภาพ
3. Bouchon Sarment d’Amour ชีสรูปทรงกระบอกคล้ายจุกไม้คอร์ก ตรงกลางคือกิ่งต้นองุ่น รสชาติอ่อนค่ะ
4. Saint Nicolas Dalmerie มี rosemary วางด้านบน พอทานเข้าไป เคี้ยวไปสักพักก็มีกลิ่นหอมของ thyme และ rosemary ออกมา
5. Trefle Fermier Lera รูปทรงเหมือนใบโคลเวอร์ ผิวด้านนอกเคลือบด้วยขี้เถ้า รสตอนปลายออกเปรี้ยวเล็กน้อย
ต่อด้วยชีสนมวัวอีก 5 ชิ้น6. Camembert Jort ผิวด้านนอกแข็งนิดๆ แต่ข้างในนุ่ม
7. Coeur de Neufchatel ชีสรูปหัวใจจาก Normandie มีตำนานเล่าว่าหญิงสาวชาวฝรั่งเศสตกหลุมรักทหารอังกฤษระหว่างสงคราม 100 ปี เลยทำชีสรูปหัวใจขึ้นมาเพื่อแสดงออกถึงความรักที่มีต่อทหารหนุ่มค่ะ Texture คล้ายกับ Camembert แต่แข็งกว่าเล็กน้อย
8. Pont L’Eveque เนื้อนุ่มและค่อนข้าง creamy
9. Brie Aux Truffes ชีสบรีที่มีส่วนผสมของครีมชีส ทรัฟเฟิล ทำให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เวลาทานนได้ทั้งรสชาติและกลิ่นของชีสและทรัฟเฟิล คนชอบกินทรัฟเฟิลน่าจะชอบชิ้นนี้ค่ะ
10. Fourme D’Ambert เป็นบลูชีสที่ไม่ฉุนเท่าไหร่ คนที่ไม่ค่อยชอบบลูชีต้องลองทานดูค่ะ ทานง่าย อร่อย หอมกำลังดี ชอบชิ้นนี้ที่สุดใน platter เลยค่ะ
ราคาชีสจาก 2016 Collection of Fromages de France เป็นดังนี้
1 ชิ้น 180++ บาท
3 ชิ้น 450++ บาท
5 ชิ้น 750++ บาท
8 ชิ้น 1,200++ บาท
ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเทียบกับคุณภาพและความหลากหลายของชีสที่มีให้เลือก ถ้าทานแล้วติดใจอยากซื้อกลับไปทานที่บ้านก็ได้ค่ะ ทางร้านมีบริการ Take Away
นอกจากชิมชีสแสนอร่อยแล้ว เรายังได้ชิมเมนู A la carte ของร้าน Scarlett เพิ่มเติม ได้แก่
Lyonnaise Salad, mixed well with Frisee lettuce, smoked duck breast, duck gizzard, poached egg and bacon (360++ บาท) สลัดอกเป็ดรมควัน เนื้อเป็ดนุ่ม หอม ทานพร้อมกับเบคอน ผักอื่นๆ และไข่ลวก อร่อยดีค่ะ ทานแล้วสดชื่น
Le Crabe Royal d’Alaska – Alaskan king crab prepared as a salad, Dijon mustard, mayonnaise, mango and avocado (580++ บาท) สลัดปูอลาสก้าชิ้นโต ทานกับผักสดๆ น้ำสลัดดีจองมัสตาร์ด
La Cote de Boeuf ‘Maturee’ – 3-4 weeks dry aged prime rib with bone (1KG) served with Bearnaise sauce, pepper sauce, blue cheese sauce and potato wedges (2,550++ บาท) จานนี้ยิ่งใหญ่อลังการ เนื้อชิ้นโต ความสุกระดับ medium ทานคู่กับ Sea salt ก็ได้ หรือจะทานกับซอส 3 อย่าง คือ ซอส Bearnaise ซอสพริกไทย และซอสบลูชีส โดยส่วนตัวชอบซอส Bearnaise กับบลูชีส ส่วน Potato wedge ก็ชิ้นใหญ่มาก ถูกใจคนชอบมันฝรั่งอย่างเรา
Duck leg confit served with pommes rissoles (640++ บาท) เมนูยอดนิยมของอาหารฝรั่งเศส ทำมาได้ดีมากค่ะ กรอบนอก นุ่มในปิดท้ายมื้อนี้ด้วยขนมหวาน
Chocolate Profiteroles – vanilla ice cream in puff pastry, warm chocolate sauce (280++ บาท) ไอศกรีมวานิลลาในพัฟกรอบหอม ราดด้วยช็อกโกแลตอุ่นๆ
Granny Smith Apple Tart – Homemade apple tart and vanilla ice cream (250++ บาท) ทาร์ตแอปเปิ้ล แป้งทำได้กรอบ หอม เนื้อแน่น แอปเปิ้ลรสชาติเปรี้ยวหวาน ทานทาร์ตอุ่นๆ พร้อมไอศกรีมวานิลลา ปิดท้ายมื้อนี้ได้ดีทีเดียว
ห้องอาหาร Scarlett Wine Bar & Restaurant เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 – 01.00 น.
สำรองที่นั่งหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 096 8607990
Email: [email protected]
Facebook: www.facebook.com/Scarlettwinebarbangkok