สวัสดีค่ะทุกคน
คนรักขนมหวานและสาวกมาการองคงจะต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ Chef Pierre Herme มาบ้างไม่มากก็น้อย
ด้วยความที่เชฟปิแอร์นั้นเป็นอัจริยะของวงการขนมหวาน ถึงขั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น “Picasso of Pastry” มาแล้ว
และความสามารถด้านขนมหวานอันเป็นที่เลื่องลือของเชฟ ก็ทำให้แบรนด์ Pierre Herme Paris นั้นไม่เพียงแต่โด่งดังแพร่หลายในฝรั่งเศสแต่ยังประสบความสำเร็จไปไกลในต่างแดน ตั้งแต่ในโตเกียว ไปจนถึงอีกหลายประเทศทั่วโลกรวม 18 ประเทศด้วยกัน
โชคดีที่ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น โดย Pierre Herme Paris – Thailand ได้มาเปิดร้านที่ EmQuartier ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ความพิเศษของมาการองที่เชฟปิแอร์รังสรรค์ขึ้นนั้น อยู่ที่รสชาติที่แปลกและหลากหลาย ที่ถูกจับมาผสมผสานให้เข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ วัตถุดิบที่เชฟนำมาทำมาการองมีตั้งแต่ผลไม้หลากชนิด ไปจนถึงวัตถุดิบที่คุณอาจไม่คิดว่าจะเข้ากับขนมหวานอย่างมาการองได้อย่าง Foie gras เห็ดทรัฟเฟิล มะกอก มิโซะ เป็นต้น
และรสชาติแปลกใหม่เหล่านี้ก็จะทยอยนำเข้าไทยมาเรื่อยๆ สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้เราได้ชิมกัน
ในช่วงเดือนนี้ทาง Pierre Herme ก็ได้เปิดตัวคอลเลคชันใหม่ สี่รสสี่สไตล์
เราเลยไม่พลาดที่จะนำมาให้คุณได้ชมไปด้วยกันค่ะ
เริ่มจาก “Reglisse Violette”
มาการองชะเอมและดอกวิโอเลต หอมหวานอมรสเปรี้ยว
รสนี้ต้องใช้ความกล้านิดนึงเพราะบางท่านได้ยินคำว่าชะเอมแล้วก็เริ่มกลัวกันไป
แต่ทานแล้วจะพบว่ารสชาติและกลิ่นของชะเอมไม่ได้แรงเลย มาบาลานซ์กับกลิ่นหอมและรสเปรี้ยวๆ ของดอกวิโอเลตแล้วเข้ากันได้อย่างพอดิบพอดี
ต่อที่ “Huile d’Olive & Vakille”
มาการองรสวนิลาและน้ำมันมะกอกรสละมุน
คราวที่แล้วเคยชิมอีกรสของอีกคอลเลคชันที่ใช้น้ำมันมะกอก ส่วนตัวไม่ค่อยโปรดเท่าไร
แต่คราวนี้พอมาเข้าคู่กับวนิลา กลับรู้สึกว่ามันรสกลมๆ อ่อนๆ กำลังดี
ที่เพิ่มสีสัน ตามสไตล์ขี้เล่นของเชฟก็เห็นจะเป็นชิ้นมะกอกเขียวอมเปรี้ยวชิ้นเล็กๆ ที่สอดแทรกอยู่ในมาการองให้คุณได้จี๊ดเล่น
อีกรสที่แปลกใหม่ก็เห็นจะต้องเป็น “Mutine”
ช็อกโกแลตนมและมะพร้าวที่คนไทยน่าจะชอบเพราะรสคุ้นลิ้นกันดี ออกคล้ายกะทิเล็กๆ หวานๆ หอมๆ ตัวช็อกโกแลตเองก็ออกไปทางรสอ่อนๆ ไม่ได้กลบกันจนเกินไป
และสุดท้ายที่แฟนๆ มาการองไม่ควรพลาด
คือรส “Montelbello”
มาการองพิสตาชิโอสอดไส้เยลลี่ราสพ์เบอร์รี่ ที่หลายคนอาจเคยได้ชิมถั่วพิสตาชิโออย่างเดียวหรือรสราสพ์เบอร์รี่ อย่างเดียวกันมาก่อน แต่คราวนี้มาจับคู่กันใหม่ ออกมาไฉไลกว่าเดิมโดยเชฟใช้ความนวลของรสถั่วมาตัดฉับกับรสเปรี้ยวจี๊ดของราสพ์เบอร์รี่จนออกมาลงตัว
นอกจากสี่รสนี้แล้ว แน่นอนว่าที่ร้านก็ยังมีรสอร่อยซิกเนเจอร์อีกหลายรสที่ยังไม่หนีคุณไปไหน
ไม่ว่าจะเป็นรส Rose รส Salted Caramel
หรือรส Mogador ที่เป็นมาการองรสเสาวรสสอดไส้ช็อกโกแลตนม ที่เชฟใจกล้าเอารสเปรี้ยวๆ ของเสาวรสมาชนกับรสช็อกโกแลตเต็มๆ ได้รสออกมา bold โดนใจ
สำหรับใครที่สนใจรีวิวรสชาติอื่นๆ สามารถติดตามได้ที่
หรือสนใจมาการองร้านอื่นๆ ด้วยก็อ่านเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ในส่วนของมาการองนั้น
กล่อง 7 ชิ้นที่ราคาอยู่ที่ 980 บาท
กล่อง 12 ชิ้น ราคา 1580 บาท
กล่องใหญ่อย่างที่เห็นนี้ จะเป็นกล่อง 24 ชิ้น ที่มาในราคา 3,100 บาท นั่นเอง
โดยสาวกหลายๆ ท่านก็จะสะสมกล่องกัน ซึ่งทางร้านก็จะออกลายใหม่ๆ ออกมาล่อใจอยู่เนืองๆ
และนอกจากมาการอง ที่หลายๆ ท่านอาจไม่ทราบก็คือ ทางร้านได้นำเค้กรสเยี่ยมหลายรสมาให้เราซื้อหากันได้ถึงเมืองไทย
ไม่ว่าจะเป็นรส Ispahan รส Praline & Chocolat ไปจนถึง 2 รสชาติใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอย่าง
Infiniment Cafe
และรส Infiniment Citron
ซึ่งเค้กราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1150 บาท เหมาะกับการซื้อหาไปเป็นของขวัญ หรือซื้อฝากกันเวลาไปปาร์ตี้ในกลุ่มผองเพื่อน
สำหรับปีนี้ ต้องขอแสดงความยินดีมากๆ กับเชฟปิแอร์และทางร้านที่เชฟได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก อย่างตำแหน่ง World’s Best Pastry Chef ซึ่งประกาศผลไปพร้อมกับ World’s 50 Best Restaurants 2016 ที่เพิ่งจัดงานประกาศขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
หากใครสนใจชิมฝีไม้ลายมือของพ่อมดวงการขนมหวานดีกรี World’s Best Pastry Chef ก็อย่างลืมแวะมาชิมกันที่ Pierre Hermé Paris-Thailand นะคะ