สวัสดีค่าเพื่อนๆ
วันนี้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกแล้ว และเพื่อเอาใจคอขนมหวานโดยเฉพาะ เราจะพาไปชิมร้านชีสทาร์ตชื่อดัง Pablo Cheese Tart กันค่ะ
Pablo เป็นร้านขนมสุดฮิตของโอซากา วันหนึ่งๆ ขายได้เป็นพันชิ้น คนต่อคิวกันยาวเหยียดทุกสาขา เวลาเดินผ่านร้านตามสถานีรถไฟตามย่านดังในเมืองยิ่งแล้วใหญ่ กลิ่นหอมอบอวลโชยมาไกลจนใครๆ ก็ต้องหยุดต่อแถวลองซื้อมาชิม
ด้วยความนิยมอย่างสูงที่ได้รับ ตอนนี้ Pablo จึงได้ขยายสาขาไปเปิดเพิ่มที่โตเกียว และเริ่มมีในประเทศอื่นๆ แล้วเหมือนกันอย่างในเกาหลีเป็นต้น
เคล็ดไม่ลับของทาร์ตที่นี่คือการทำไส้ชีสแบบที่ยังเหลวเยิ้ม มีสองแบบคือ medium และ rare ที่แค่เห็นก็น้ำลายสอขึ้นมาทันที
เราเห็นร้านนี้ครั้งแรกที่ Shinsaibashi ค่ะ คนต่อแถวกันยาวเหยียด เราเลยไปเกาะกระจกดูเค้าเบื้องหลังการทำชีสทาร์ตของที่นี่กัน
คลิปเบื้องหลังการทำ Cheese Tart
โอ้โห ทำได้คล่องแคล่วรวดเร็วมากๆ ทีเดียว
เนื่องจากคิวยาวและร้านเองก็ไม่มีที่นั่งเราเลยตัดสินใจเดินต่อไปที่ร้านสาขา Dotonbori ค่ะ
คราวนี้เป็นคาเฟ่ใหญ่ มีถึงสองชั้น และมีที่ให้นั่งกินนั่งชิลกันสบายๆ
สำรวจเมนูหน้าร้านก่อนเล็กน้อยพอเป็นพิธี มีเมนูให้เลือกแยะเชียวค่ะ
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าฝ่าฝูงชนเข้าไปต่อแถวรอชิม
เมนูด้านในที่ให้ลูกค้าได้เลือกค่ะ
ข้อดีอีกอย่างของร้านใหญ่ที่มีให้นั่งคือจะมี Cheese Tart ไซส์มินิให้เราได้สั่ง ทำให้ได้ชิมหลายรสชาติมากขึ้น แถมมักเสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมและซอสพิเศษให้ราด ทำให้ชีสทาร์ตที่เจ๋งอยู่แล้วเริ่ดขึ้นอีก
ตอนที่เราไปก็มีชีสเค้กรสใหม่ๆ ออกมาให้ชิมหลายรสด้วยกัน อยากกินไปเสียทุกอย่าง เลือกกันแทบไม่ถูกเชียวค่ะ
เราสั่งชีสทาร์ตสองจานค่ะ และไม่ลืมที่จะสั่ง Soft Serve รสข้าวโพดมาลองชิม
อื้อหือ แค่ไอศกรีมก็รสชาติกลมกล่อมหอมหวาน อร่อยถูกใจ
ตื่นเต้นกับชีสทาร์ตเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าเลยทีเดียว
จากนั้นเราก็ขั้นไปนั่งรอที่ชั้นสองค่ะ
ร้านกว้างขวางมีที่นั่งเยอะเชียว
นั่งไปแป๊บๆ อยู่ดีๆ ร้านก็เปิดเพลงเสียดังสนั่นหวั่นไหว เราก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าเป็น grand entrance ของชีสทาร์ตเรานั่นเองค่ะ
บริกรสามคน นำชีสทาร์ตที่เราสั่งมาเสิร์ฟ จากนั้นก็ออกมาเต้นกันอย่างน่ารักบ้องแบ๊วสไตล์ญี่ปุ่น
คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ก็ปรบมือให้จังหวะกันไปด้วยอย่างสนุกสนาน
เต้นกันนานทีเดียวค่ะ นี่ตัดมาให้ชมเพียงสั้นๆ เรียกน้ำย่อย
พอเพลงจบทางร้านก็นำพร็อพมาให้ถ่ายรูปกันด้วยค่ะ โดยอาสาเป็นคนถ่ายรูปหมู่ให้พวกเราเสียหลายช็อต
แค่นี้ก็ฟินกันไปรอบนึงแล้วค่ะ
จากนั้นก็ถึงเวลาที่รอคอย…
จานแรกที่สั่งเป็น Plain mini cheese tart ที่มากับ Berry ice cream “BERRY” (806 yen)
ตัวชีสทาร์ตยังอุ่นๆ อยู่เลย ขอบกรอบอร่อยหอมเนย ข้างในในเป็นชีสเค้กแบบเยิ้มๆ
กินเฉยๆ ไม่ต้องราดซอสหรือกินคู่กับไอศกรีมก็เคลิ้มจะแย่แล้ว
พอมีไอศกรีมเบอร์รี่เย็นฉ่ำ กับซอสเบอร์นี่รสเปรี้ยวๆ มาให้ทานคู่กันก็ยิ่งปลื้ม
อีกจานที่สั่งคือ Matcha mini cheese tart “MATCHA” (806 yen) ค่ะ
อันนี้ชาเขียวเน้นๆ ทานคู่กับไอศกรีมอีกเช่นกัน
พอตัดลงไปมีเซอร์ไพรส์ด้านในให้อีกต่างหาก เป็นโมจิลูกกลมนุ่มหนึบและถั่วแดง เข้ากันกับชีสทาร์ตชาเขียวเป็นที่สุด
ส่วนตัวชอบร้านนี้มากๆ เลยค่ะ ทั้งบรรยากาศสนุกสนาน การบริการที่ยอดเยี่ยมเอาใจใส่สไตล์ญี่ปุ่น
ชีสทาร์ตของที่นี่ก็เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รสชาติไม่หวานจัด ไม่ว่าจะเป็นรสต้นตำรับหรือรสถั่วแดง เสิร์ฟร้อนๆ มาเยิ้มๆ เนื้อนุ่มนวล คือที่สุดแห่งความฟิน แต่ก็มีเพื่อนๆ บางคนบอกว่าจืดไปบ้าง เลี่ยนไปบ้าง อันนี้ก็นานาจิตตังค่ะ อาจจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลด้วย ว่าพอพูดถึงชีสเค้ก อาจจะนึกไปถึงเค้กแน่นๆ หนานุ่ม ซึ่งก็คนละสไตล์กันกับร้านนี้ แต่ถ้าใครกรี๊ดชีสแบบเยิ้มๆ หรือชอบแนวๆ พุดดิ้งคัสตาร์ด ร้านนี้มีไว้เพื่อคุณเลยจริงๆ ค่ะ
Pablo จึงเป็นอีกร้านหนึ่งที่อยากจะแนะนำผองเพื่อนให้ไปลองชิมกันถ้าได้มีโอกาสไปญี่ปุ่น ความอร่อยเต็มร้อยไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่า
ใครอยากหาพิกัดทางร้านเค้ามีลิสท์ที่อยู่ของสาขาต่างๆ ตามนี้เลยค่ะ Pablo Shops
ติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie นะคะ