ในวงการ Fine Dining หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับร้าน Noma ที่เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพราะร้านนี้เคยเป็นร้านอันดับ 1 ของ The World’s 50 Best Restaurants ถึง 4 ปี ได้แก่ ปี 2010, 2011, 2012, และ 2014
Chef René Redzepi ปิดปรับปรุงร้านเมื่อปี 2016 และเปิดบริการอีกครั้งภายใต้ชื่อ Noma 2.0 ในปี 2018 และล่าสุดปีนี้ Noma ก็กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับสองของลิสต์ The World’s 50 Best Restaurants 2019 และคว้ารางวัล Highest New Entry Award นอกจากนี้ร้านยังได้ 2 Michelin Star ปี 2019 อีกด้วย ทำให้ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่จองยากมากๆ ร้านหนึ่งของโลกเลยค่ะ
เมนูของร้าน Noma จะแบ่งเป็น Season ค่ะ แต่ละปีจะมีทั้งหมด 3 Season ได้แก่ Seafood Season (ม.ค.-มิ.ย.) Vegetable Season (มิ.ย.-ก.ย.) และ Game and Forest Season (ต.ค.-ธ.ค.) รีวิว Noma นี้จะเป็นของ Seafood Season เดือนเม.ย. 2019 นะคะ ต้องขอขอบคุณพี่ปั้น Panasm.com ที่จองได้และให้น้องติดสอยห้อยตามไปทานด้วย กราบงามๆ
ใครอยากทานต้องเตรียมจองให้ดีค่ะ จองในเว็บไซต์ https://noma.dk/reservations/ รอเวลา เตรียมบัตรเครดิตไว้ให้พร้อม แนะนำเน็ตแรงๆ ด้วยค่ะ
ราคาอาหารของ Seafood Seadon อยู่ที่ DKK 2,500 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,000 บาทค่ะ มี 17 คอร์ส เครื่องดื่มจ่ายเพิ่มนะคะ Wine Pairing ราคา DKK 1,350 ถ้าไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็มี Juice Pairing ราคา DKK 950 ส่วนน้ำเปล่าขวดละ DKK 50
เรานั่งบัสจากตัวเมือง Copenhagen ไปที่ร้าน ลงรถแล้วเดินมาเจอป้ายนี้แปลว่ามาถูกที่แล้วค่ะ
พอมาถึงหน้าร้านพนักงานจะมาถามชื่อที่จองไว้แล้วพาเราไปรอใน Glasshouse ระหว่างนี้ก็มี Welcome Drink มาให้ มีชาและไซเดอร์ให้เลือกค่ะ พอเพื่อนๆ เรามากันครบแล้วเค้าถึงจะพาเดินเข้าไปที่ร้านพร้อมกัน
ทางเดินไปที่ร้าน ฝั่งขวามือที่เห็นเป็น Fermentation Lab ค่ะ มีอีกส่วนอยู่ในอาคารหลักด้วย วัตถุดิบหลายอย่างที่ร้านนำมาใช้ประกอบอาหารก็ผลิตใน Lab เนี่ยแหละค่ะ ที่นี่เค้าจริงจังมาก มีการรวบรวมสูตรต่างๆ และเขียนหนังสือชื่อ The Noma Guide to Fermentation หากใครสนใจลองหามาอ่านดูนะคะ
ประตูทางเข้ามีปลาแขวนอยู่ บ่งบอกถึง Seafood Season ที่รอเราอยู่หลังประตูบานนี้
บรรยากาศร้านค่ะ ตกแต่งสวย สีดีจริงๆ
พอมานั่งที่โต๊ะแล้วเราแวะไปเข้าห้องน้ำแปปนึง ตอนกลับมาแอบโดนพนักงานดุนิดๆ เพราะว่าเมนูแรก Fresh Norwegian Scallop เชฟแกะเปลือกจังหวะเดียวกับที่เราก้าวเท้าเข้ามาในร้านเลยค่ะ (OMG!) เค้าบอกว่าเพื่อความสดที่สุดและรสชาติที่ดีที่สุดเลยอยากให้รีบทาน แต่ถึงจะผ่านมาแปปนึงแล้วเมนูนี้ก็ยังอร่อยมากๆ อยู่ดีค่ะ เนื้อหอยสด หวาน อร่อยมาก
Seafood Platter เมนูนี้เราชอบ Texture เป็นพิเศษ หอยแคลมสามชนิด คือ Carpet Clam, Venus Clam, Mahogany Clam พนักงานบอกว่า Mahogany Clam อยู่ได้เป็นร้อยปี ถ้าอยากรู้อายุลองดูจากวงบนเปลือกหอยได้ค่ะ เราเองก็นับไม่ไหวเหมือนกันค่ะ แหะๆ ผลไม้ตรงกลางคือ Quince เป็นผลไม้ตระกูล Citrus เวลาทานก็บีบเหมือนบีบเลมอนเลย
Marinated Sweet Shrimp กุ้งที่เห็นทำจากเบอร์รีอบแห้งสอดไส้เนื้อกุ้งหมัก สดหวาน เข้ากับรสเปรี้ยวหวานของเบอร์รีมากๆ
Grey Shrimp Cooked with Sea Lettuce เมนูนี้หน้าตาเหมือน ravioli ทำจากสาหร่ายสอดไส้ด้วยเนื้อกุ้ง ทานคำเดียวหมดเลยค่ะ อร่อย
Lumpfish Roe and Cured Egg Yolk เมนูนี้เราชอบมาก ไข่ปลาสดมาก texture ดีมาก ซอสไข่แดงก็อร่อย เข้มข้น มีกลิ่นหอมนิดๆ จากดอกซากุระที่โรยมา เมนูนี้เสิร์ฟคู่กับ Ramps ใบกระเทียมป่าย่างมาเกรียมนิดๆ หอม อร่อย ทานด้วยกันแล้วยิ่งอร่อยเลยค่ะ รสชาติกลมกล่อมสุดๆ ตอนแรกแอบเสียดายที่ร้านเสิร์ฟเมนูนี้แทนไข่หอยเม่น เพราะอยากลองไข่หอยเม่นจาก Faroe Islands มาก แต่พอเจอเมนูนี้เข้าไปก็ฟินมากค่ะ
Cured Turbot เนื้อปลาหมัก Corn Miso ที่ร้านทำเองใน ab เนื้อปลานุ่มๆ หนึบๆ ซอสมิโสะก็หวาน หอม จานนี้ก็อร่อยอีกแล้ว ดีงาม
Medium Rare Blue Shell Mussel หอยแมลงภู่เนื้อแน่น เสิร์ฟพร้อมคาเวียร์และซุปสาหร่าย หอยสดและเนื้อแน่นมาก อร่อยค่ะ ซุปหอมดีแต่ขมไปนิดนึง
Cod Bladder Simmered with Quince กะเพราะปลาคอดหนึบๆ เสิร์ฟในซุปเย็นทำจาก Mussel และ Gooseberry มีรสเผ็ดนิดๆ
Cod Tongue Schnitzel ลิ้นปลาคอด deep-fried เสิร์ฟมาแบบติดกระดูกเลยค่ะ โรยด้วย Wasabi flowers เมนูนี้ไม่เคยทานมาก่อน รสสัมผัสของลิ้นปลาอกกนุ่มๆ ทอดมาอร่อยมาก
Salt Cod Pie แป้งทำจาก Caramelised Milk Skin บาง กรอบ หวานนิดๆ ด้านในอัดแน่นด้วยเนื้อปลาคอด จาก Faroe Islands ทานพร้อม Oyster Leaves ที่มีรสชาติเหมือนทานหอยนางรมจริงๆ
Beach Crab Gel and Pinecones ซุปเนื้อปูทำเป็นแบบเจลเสิร์ฟกับครีม รสชาติอร่อยดีค่ะแต่เราไม่ค่อยชอบรสสัมผัสเจลเท่าไหร่
มาถึงเมนูที่เราตั้งตารอหลังจากแอบส่องใน Instagram มานาน Boiled Brown Crab on Flatbread เมนูนี้น่ารักมากค่ะ ขนมปัง Flatbread ทำจากมอลต์และเบียร์ ทำเป็นรูปปูน่ารักกรุบกริบ ข้างในเป็น Ragu เนื้อปู น่ารักด้วยอร่อยด้วย และดูเป็นเมนูที่ทำยากด้วยเหมือนกัน
Hot Smoked, then Barbecued Arctic King Crab เนื้อเยอะมาก สด หวาน อร่อยมากกก ดีกว่าที่เคยกินมาทั้งหมดเลยค่ะ ทานเปล่าๆ ก็อร่อย ทานกับ Horseradish Milk ที่ให้มาด้วยก็จะเข้มข้นขึ้นมาอีกนิด เมนูนี้ตอนมาเสิร์ฟมีกิมมิคเล็กน้อย คือให้เราสแกน QR Code เพื่อดูว่าปูที่เราทานอยู่น้ำหนักเท่าไหร่ ถูกจับวันไหน ใครจับมา ทานไปอ่านไปเพลินดีค่ะ
เมนูอาหารอย่างสุดท้าย Crab Salad สลัดเนื้อปู เมนูดูธรรมดาแต่อร่อย เนื้อปูอุ่นๆ ทานกับผักสด น้ำสลัดก็อร่อย
ช่วงที่ทานขนมหวานพนักงานจะพาเรามานั่งอีกห้องนึงนะคะ บรรยากาศดี ตกแต่งสวยเหมือนกัน
ขนมหวานเมนูแรก Salted & Dried Berries from Summer มูสโยเกิร์ตชิ้นใหญ่ทำจากนมแพะ เสิร์ฟกับเบอร์รีตากแห้ง อร่อยมาก ลงไปตัวไปหมดทุกอย่างเลย อยากกินอีกชามเลยค่ะ
Cardamom Scented Sea Star ขนมหวานทำเป็นรูปปลาดาว ให้เข้ากับ Seafood Season ทำจากคาราเมลและคาร์ดามอม หวานๆ หอมๆ
เมนูขนมหวานปิดท้าย Seafood Season ทางร้านเสิร์ฟ Chocolate Cod Skin หนังปลาคอดทอดเคลือบดาร์กช็อกโกแลตจากเม็กซิโก เสิร์ฟมาพร้อมมีดไว้ใช้หั่นตอนทาน ตัวช็อกโกแลตอร่อยดีค่ะ หอม แต่เราว่าพอมาอยู่กับหนังปลาแล้วเฉยๆ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะจบคอร์สด้วยเมนูที่อร่อยกว่านี้ได้
โดยรวมแล้วสิ่งที่เราประทับใจ Seafood Season ของร้าน Noma คือ คุณภาพของวัตถุดิบ ความคิดสร้างสรรค์ในการทำอาหาร รวมถึง presentation ของอาหาร สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษคือรายละเอียดของแต่ละเมนูที่ทำออกมา บางเมนูต้องใช้เวลาคิดค้นอยู่หลายเดือน จึงไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไม Noma ถึงเป็นร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จและเป็นร้านที่มีชื่อเสียงระดับโลก
แต่ว่าก็มีบางอย่างที่เรารู้สึกไม่ชอบ หรือเฉยๆ ค่ะ มีช่วงนึงที่ทางร้านเสิร์ฟค่อนข้างเร็ว เลยต้องทานแบบรีบๆ ไม่ได้ดื่มด่ำอาหารตรงหน้าเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะเราไปทานรอบแรก ทางร้านเลยต้องทำเวลาเพื่อรับลูกค้ารอบถัดไปค่ะ ในส่วนของเมนู น่าจะตัดเมนูขนมสักอย่างนึง แล้วเพิ่มเมนูอาหารอีก 2-3 อย่าง แทนค่ะ รู้สึกว่าราคาแพงไปนิดนึงเมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่เสิร์ฟ
รีวิว Noma นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าเพื่อนๆ ไปทานก็อาจได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป หากใครอยากไปลองทานอาหารที่ร้าน Noma ขอให้จองได้ และขอให้สนุกกับการเดินทางและการรับประทานอาหารค่ะ
ขอปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยบรรยากาศร้านตอนกลางคืนค่ะ พอเราออกมาจากร้านได้สักพักหิมะก็ตกพอดี 🙂
อ่านรีวิวร้าน Michelin Star ร้านอื่นเพิ่มเติม https://foodiesjournie.com/?s=michelin