สวัสดีค่ะ
หน้าร้อนที่อากาศอบอ้าวแบบนี้ก็ชวนให้สรรหาอาหารอะไรที่จะทำให้ชื่นใจคลายความร้อนกันได้บ้าง
หนึ่งในเมนูไทยแต่โบราณที่นิยมกันมากในฤดูร้อนก็เห็นจะเป็นเมนูข้าวแช่นี่ล่ะค่ะ
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับบรรยากาศร่มรื่นแบบที่คุณจะไม่เชื่อสายตาว่าหาได้ใจกลางกรุง พร้อมชิมข้าวแช่ชาววังและขนมโบราณสูตรอร่อยที่หาทานได้ยาก พร้อมแล้วตามมาเลยค่ะ
โรงแรมหัวช้าง เฮอริเทจ กรุงเทพฯ Hua Chang Heritage Hotel, Bangkok ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าราชเทวีค่ะ
หากจะมาจากทางมาบุญครองหรือสนามกีฬาก็ไม่ไกลมากเช่นกัน เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสบาย
แม้ด้านนอกจะดูสับสนวุ่นวาย รถราวิ่งขวักไขว่ แต่พอเข้ามาด้านในแล้วกลับได้สัมผัสความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่และได้ชื่นใจกับฝอยเย็นของน้ำพุที่เรียงรายต้อนรับขณะที่เดินเข้ามาถึง
เดินเรื่อยมาจนสุดสระน้ำก็จะเจอกับห้องอาหารมิสสยาม
จะเลือกนั่งตากลมด้านนอกก็ได้ จะย้ายมานั่งด้านในในส่วนที่เป็นห้องแอร์ก็ดี
เข้ามาถึงก็จะมีน้ำสมุนไพรเย็นๆ ให้บริการ
สำหรับดาวเด่นของบุฟเฟต์อาหารไทยในวันนี้ก็หนีไม่พ้นเมนูข้าวแช่ ที่ทางร้านจัดทำอย่างปราณีตพิถีพิถัน
ตั้งแต่ตัวน้ำลอยดอกมะลิที่ของที่นี่จะไม่ใส่กลิ่นสังเคราะห์หรือน้อหอมเพิ่มเติมเลยแต่จะใช้ดอกไม้จากสวนของตัวเองทำให้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบธรรมชาติ
และไม่ได้ใช้ดอกมะลิเพียงอย่างเดียว จะมี ดอกชมนารถ ดอกกุหลาบมอญ และดอกกระดังงาอีกด้วย
ส่วนเมนูข้าวแช่นั้นก็น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีหลากหลายให้ได้เลือกชิม
ตั้งแต่ หมูหวานฝอย หมูทอดปลาอินทรีย์ ไข่แดงเค็มทอด ลูกกะปิ ไชโป๊วผัดหวาน หอมแดงสอดไส้ปลาแห้ง ไปจนถึงพริกหยวกสอดไส้หมู
เมนูเด่นของที่นี่เห็นจะเป็นปลาแห้งแตงโมที่ทางร้านได้ทำแตงโมเป็นลูกกลมพอดีคำ ยัดไส้ในลิ้นจี่หวานหอม แล้วก็มีปลาแห้งที่คลุกเคล้ากับน้ำตาลที่ออกเค็มนิดๆ หวานหน่อยๆ มาให้โรยด้านบน เรียกว่าสดชื่นกับแตงโม หวานละมุนกับลิ้นจี่ และตบท้ายด้วยรสเค็มของปลาแห้งได้อย่างลงตัว
เครื่องเคียงผักสดของที่นี่ก็มากันครบทีม ทั้ง ใบแตงกวา ดอกกระชาย และใบมะม่วง
ถ้าใครพาผู้หลักผู้ใหญ่มาจะเห็นว่าแต่ละท่านปลาบปลื้มกับข้าวแช่ครบเครื่องของที่นี่กันเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเครื่องพร้อม ผักพร้อม คราวนี้ก็ได้เวลาชิมเครื่องเคียงไปพร้อมๆ กับข้าวแช่ ที่พอลอยน้ำลอยดอกมะลิ ตักน้ำแข็งใส่ด้านบนเล็กน้อยก็ทั้งหอมทั้งเย็นชื่นใจ
นอกจากข้าวแช่ ทางร้านก็ยังมีซุ้มอาหารจานร้อน คือผัดไทย ที่ให้เราได้ชมกรรมวิธีการทำกันสดๆ และได้ทานจานที่ทำขึ้นมาใหม่ๆ ร้อนๆ อีกด้วย
จานนี้ บีบมะนาวอีกนิดหน่อย รสชาติก็กลมกล่อมลงตัว
ปิดท้ายด้วยขนมไทยซึ่งที่นี่มีหลากหลายมากๆ ทั้งบัวลอยน้ำกะทิเข้มข้น สังขยา หม้อแกง ขนมเหนียว
วันนี้มีไฮไลท์เป็นเมนู “ส้มฉุน” ที่เป็นเมนูโบร่ำโบราณ หลักๆ เป็นลิ้นจี่ลอยแก้ว แต่โดดเด่นที่มีขิงอ่อนซอย และ มีหอมเจียวโรยทั้งๆ ที่เป็นเมนูอาหารหวาน น้ำลอยแก้วก็มีความพิเศษเพราะใช้น้ำส้มซ่ามาผสม เป็นเมนูที่เหมาะกับหน้าร้อนเป็นอย่างยิ่ง ขิงอ่อนที่ตอนแรกเราเกร็งก็พบว่าไม่ได้เผ็ดร้อนแต่ออกซ่าๆ เสิร์ฟเย็นแบบนี้แล้วสดชื่นไปอีกแบบ
ส่วนขนมที่ทำให้ชมสดๆ ก็จะสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละวัน
วิดีโอสาธิตการทำขนมข้าวปงข้าวเปียง
วันที่เราไปเป็น ขนมโบราณอย่างขนมข้าวปงข้าวเปียงที่หาทานได้ยาก
ไส้ในเป็นมะพร้าวฉีก แป้งที่หุ้มมีผสมฟักทองบด เสร็จแล้วด้านนอกจะคลุกงาหอมๆ อีกที
การจะได้ทานข้าวแช่กับน้ำลอยดอกมะลิหอมเย็นชื่นใจคู่กับเครื่องเคียงและผักแนมแสนอร่อยแบบนี้หาได้ไม่ง่ายเลย ทั้งหมดนี้ยังรวมบุฟเฟต์อาหารไทยและเครื่องดื่มไว้เรียบร้อยสำหรับมื้อเที่ยงของทุกวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. ในราคา 450B net
แถมทางห้องอาหารรู้ใจมีจัดโปรโมชันพิเศษมาให้ ตั้งแต่ ส่วนลด 10% สำหรับผู้ที่โพสท์รูปข้าวแช่มิสสยามลง FB หรือ IG และมีโปรมา 3 จ่าย 2 ให้กับบัตรเครดิต Citibank, KTC, BBL และ SCB อีกด้วย
เรียกว่าคุ้มค่ากับการได้มาทำความรู้จักกับอาหารไทยโบราณหลายชนิดที่นับวันจะเริ่มเลือนไปโดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ๆ ที่ไม่ค่อยได้สัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมอาหารอันงดงามแช่มช้อยของบ้านเมืองเรา สมกับชื่อของโรงแรมที่สื่อถึงการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันงดงามไว้ให้ลูกให้หลานอย่าง Hua Chang “Heritage” Hotel เสียจริงๆ