สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
วันนี้มีรายการดีๆ จะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
หลายๆ คนอาจจะเริ่มคุ้นหูกันบ้างกับ Hungry Hub ซึ่งเป็น website/application ในการจองร้านอาหารที่ทำให้การออกไปทานอาหารอร่อยๆ นอกบ้านของคุณสะดวกสบายขึ้นเป็นกอง
ล่าสุดทาง Hungry Hub เองก็มีไอเดียเก๋ๆ เพื่อเอาใจผู้ใช้งาน อย่างการจัดโปรโมชันพิเศษที่จับมือร่วมกันกับร้านร้านอาหารเม็กซิกันแท้ๆ อย่าง Mejico สร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้คุณได้ทางอาหารเกือบทั้งเมนูได้แบบไม่จำกัด
ซึ่ง all-you-can-eat dining experience นี้สนนราคาเพียง 599B net (ไม่รวมเครื่องดื่ม) เท่านั้น ถือว่าเป็นโปรที่คืนกำไรให้ลูกค้ากันแบบสุดๆ
แน่นอนว่างานนี้เราไม่พลาด ว่าแล้วก็ตามมาชิมกันเลยดีกว่าค่า
ร้าน Mejico นั้นตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของ Groove Central World ค่ะ
ร้านตกแต่งแบบทันสมัย ด้วยสีโทนดำ แต่ใส่ลูกเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียกับหมอนอิงสีสันสดใสหลากลวดลาย
ใครอยากตากลม โซน outdoor ที่นี่ก็มีค่ะ
ส่วนที่ดึงดูดสายตาก็เห็นจะเป็นบาร์ ที่มี tequila มากมายหลายร้อยแบบให้คุณได้เรียนรู้ศาสตร์การดื่มและแยกแยะรสชาติกันอย่างจริงจัง
Tequila ที่นี่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน ที่ร้านสามารถอรรถาธิบายให้ได้อย่างผู้รู้จริง เห็นรายการยาวเหยียดในเมนูแล้วเป็นอันต้องทึ่ง เชื่อมั่นได้เลยว่าเป็นร้านที่รวบรวม Tequila ของดีหายากมาได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
แถมได้ข่าวว่าต่อไปอาจมีการเข็นบรรดา Tequila มาให้เลือกถึงโต๊ะเลยทีเดียว
สำหรับอาหารในรายการ all-you-can-eat นั้น สั่งได้ทุกอย่างในเมนู ยกเว้นเพียง 4 รายการคือ Guacamole, Beef Short Rib, Rib Eye Taco Kit, Lamb Shank
ส่วนเครื่องดื่ม ไม่รวมอยู่ใน 599B นะคะ
มีให้เลือกหลายอย่าง
เห็นเมนูหลากหลายน่าทานขนาดนี่ เราก็อดรนทนไม่ไหวต้องรูดมาชิมรัวๆ
รายการที่ชิมเริ่มจาก Red Cebiche ปลาเนื้อขาวแบบดิบที่ปรุงรสเปรี้ยวอมเผ็ดจาก apricot และ smoky morita chili คลุกเคล้ามากับ dehydrated mango พร้อมแตงกวาและมะเขือเทศหั่นเต๋า เคียงมาด้วยเผือกทอดแผ่นบางกรอบ
ต่อด้วย Tuna Tostadas
Corn tortillas กรอบๆ นั้นโปะมาด้วยทูนา อโวคาโด และ งา ชิ้นเล็กทานง่ายพอดีคำ เหมาะกับเป็นอาหารทานเล่นรอคอยของจริงที่กำลังตามมา
จานนี้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย กับ Chili-lime calamari rings
ปลาหมึกชิ้นกลมโตชุบแป้งทอด ได้รสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ ของพริกมะนาวกระเทียม ทานกับ chipotle sauce ได้รสชาติกำลังลงตัว
อีกจานที่ดูธรรมดาแต่อร่อยไม่ธรรมดาคือ Corn lollipops
ข้าวโพดย่างเสียบไม้ ที่มีทีเด็ดอยู่ที่ chipotle sauce และชีส queso fresco เนื้อเนียน ที่เคลือบผิวด้านนอก โรย tajin chili powder มาด้วยเล็กน้อยเสริมรสชาติ
และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้จริงจริ๊งเวลามาร้านอาหารเม็กซิกัน ก็คือ Tacos กับ Nachos
Nachos ของที่นี่ เลือกได้ว่าอยากได้เนื้อวัว ไก่ หมู หรือกุ้ง หรือจะสั่งมังสะวิรัตเลยก็ยังได้
จานนี้ corn tortilla chips กรุบกรอบ salsa ที่ทำเองได้รสมะเขือเทศเน้นๆ เจอชีสยืดๆ เข้าไปด้านบนอีก ฟินกันถ้วนหน้า
ส่วน Tacos เราลองเป็น soft shell crab ชอบที่ปูชุบแป้งทอดมาได้กรอบ ให้ปูมาตัวใหญ่ดี และมี apple slaw อมเปรี้ยวอมหวานเคียงมา
หมวดของ small plates ที่นี่ก็มีให้เลือกยาวพอตัว
ที่ทางร้านแนะนำกับลูกค้าทุกคนว่าเป็น signature ห้ามพลาดคือจาน Mole enchilada
โมเลของที่นี่เข้มข้นนุ่มเนียน เห็นว่าประกอบไปด้วยเครื่องเทศรวมๆ เกือบสามสิบชนิด และรสชาติเป็นแบบดั้งเดิมแท้ๆ ของเม็กซิกันที่เชฟชาวเม็กซิกันเป็นคนทำสูตรได้ จานนี้อร่อยสมที่เป็น signature โดยเฉพาะใครที่ยังไม่เคยลองโมเลนี่ควรลองเป็นอย่างยิ่ง เพราะกลิ่นหอม ทานง่าย น่าจะติดใจ
อีกจานที่ลองคือ Grilled shrimp aguachile
จานนี้ถูกใจกับกุ้งรสเข้มข้นที่ปรุงมาเต็มที่ และการย่างที่มีส่วนไหม้ๆ เกรียมๆ เล็กๆ ได้กลิ่น char มากับมะม่วงสดเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ แตงกวา ไช้เท้าแดง การมี Tropical fruit นี่ให้ความรู้สึกสดชื่นสดใสได้ดีจริงๆ ค่ะ
จานนี้ตัวผลไม้เปรี้ยวๆ ตัดกับตัวกุ้งรสเข้มได้อย่างดีงามมาก เรียกว่าดีไซน์มาได้ดีจริงๆ
อีกจานที่ต้องเรียกว่าจัดจ้านถึงใจคือ Mushroom Alambre
จานเห็ดรวมที่ราดชีสมาอย่างเยิ้มพร้อมซอสมะเขือเทศแบบเผ็ดที่จี๊ดจ๊าดแต่ก็ไม่ถึงกับมากเกินไป มีแอบโรยเม็ดฟังทองให้พอกรุบกรอบให้เนื้อสัมผัสหลากหลายไม่จำเจ
จานเล็กยังไม่หมดเท่านี้ ยังมี Twice cooked pork belly ที่แม้มันจะชั้นหนาจนเกือบจะถึงขั้นน่ากลัว แต่เนื้อก็นุ่มได้ใจ
ถ้าทำใจกล้าทานพร้อมกับมันทั้งชิ้น จะละลายในปาก ได้อารมณ์ไปอีกแบบ จานนี้มีหมูกรอบเคียงมา อีกทั้งมีกะหล่ำม่วงเปรี้ยวๆ รสตัดกันมาดับเลี่ยน
และแล้วเราก็คืบคลานมาถึงจานหลัก
จานปลาของที่นี่ดีไซน์มาให้เป็นไซส์เหมาะกับสาวๆ ที่จะไม่อิ่มมากจนเกินไป
ยิ่งสำหรับกินเป็นบุฟเฟต์แบบนี้ จานเล็กก็มีความดีตรงที่ทำให้ชิมได้หลายอย่าง
จานหลักที่เราลองได้แก่ Grilled Tuna ที่ทำมาแบบ medium rare จี่มาข้างนอก ด้านในยังนิ่ม ปรุงรสมาไม่หนักมือจนเกินไป เสิร์ฟพร้อมกับ guacamole ที่แจ่มสุดๆ ต้องมาลองเอง มี cous cous และสลัดสับปะรดมาเพิ่มความสมดุลของจาน
และจาน Strawberry chipotle salmon
ปลาแซลมอนสุกแบบกำลังนุ่ม sous vide มาได้พอดีๆ ราดด้วยซอส Strawberry chipotle เปรี้ยวๆ หวานๆ มีโรยงากรอบๆ มาด้านบนด้วย เคียงมากับ ฟักทองบดเนื้อนุ่มเนียน จานนี้ออกโทนหวานหน่อย แต่ก็ไม่ได้หวานจนเลี่ยน ทานสบายๆ
ที่รีวิวมาก็ว่าหลายจานแล้วแต่พลังงานของเราสูง ห้ามดูถูก ถึงจุดนี้เราก็เลยรูดเมนูบอกว่าสั่งของหวานทุกอย่างอย่างละหนึ่ง
ขนมหวานที่นี่มีห้าอย่าง เด็ดๆ ทั้งนั้นแบบเลือกไม่ได้รักพี่เสียดายน้องเลยต้องสั่งกวาดหมด
เริ่มจาก
Meximisu
จานนี้คล้ายกับทิรามิสุ เป็น cinnamon-spiced chocolate mousse กับครีมมาสคาโปนหวานอ่อนๆ
เสิร์ฟมาย้วยๆ เล็กน้อย แต่อร่อยถูกใจสาวๆ
Peanut cajeta flan ปกติจะเจอฟลานนุ่มๆ เนียนๆ ของที่นี่พอดีเลือกใช้เป็น peanut เนื้อเลยจะหยาบนิดๆ ตามสไตล์ เสิร์ฟมาคู่กับบลูเบอร์รี่ และไอศกรีมมะพร้าวหอมน้อยๆ รสอ่อนๆ
Melted piñata flourless chocolate cake
จานนี้เอาใจคนรักช็อกโกแลต ตัวเค้กช็อกโลแลตเข้มข้น และไม่แห้งอย่างที่เคยกลัวเวลาเห็นขึ้นชื่อว่า flourless cake มีซอสช็อกโกแลตให้ราดอีกต่างหาก กินกับ salted caramel ice cream
Churros fondue
แป้งทอดมาร้อนๆ กรอบๆ หอมกลิ่นอบเชยนิดๆ กินกับซอสช็อกโกแลต จานนี้เป็นของโปรดของทั้งเด็กและทั้งผู้ใหญ่
ชอบที่ทำตัวแป้งมาได้ออกเบาๆ ฟูๆ และกรอบถึงใจ
ปิดท้ายด้วย Mejico meringue
จานของหวานม้ามืดที่ขโมยใจไปโดยไม่ทันรู้ตัว ตัวเมอแรงก์กรอบๆ หวานๆ ทานกับ lemon-citrus dulce de leche ที่หวานอมเปรี้ยวทำออกมาพอดีที่สุดของที่สุด แทบจะเลียซอสกันถึงหยดสุดท้ายเลยทีเดียว แถมยังมี Lime sorbet เปรี้ยวจี๊ดมาให้ ทานสลับกันทั้งตัวเมอแรงก์ตัวซอสและตัวซอร์เบทนี่อย่างเพลิน
สรุปว่าโดยรวมร้านนี้ได้ใจไปเต็มๆ กับบรรยากาศสบายๆ สีสันสนุกสนาน อาหารเม็กซิกันแท้รสชาติดี ที่รังสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ในจานให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
ใครที่กลัวว่าอาหารเม็กซิกันจะรสจัดหรือมีกลิ่นเครื่องเทศที่ไม่คุ้นชินบอกให้สบายใจได้เลยว่ารสชาติแม้จะจัดจ้านเพิ่มความน่าสนใจแต่ก็ไม่ได้จานไหนเผ็ดขนาดว่ารู้สึกฝืน เครื่องเทศเองก็ออกมาละมุน ไม่ได้โดดอย่างที่นึกกลัว
ราคาแต่ละจานเองก็สมเหตุสมผลอยู่แล้ว แต่พอเป็นโปรโมชันบุฟเฟต์เข้าไปอีกยิ่งให้ความรู้สึกคุ้มแสนคุ้ม ร้านนี้จึงเป็นอีกร้านนึงที่ต้องรีบมาบอกกล่าวให้ได้ไปลองกันค่ะ
Photographer : Thanapol Tontinikorn