ร้านอาหารไฮไลท์ของวันนี้คือร้านใน Hotel Casa Santo Domingo ณ เมืองแอนติกัว เมืองหลวงเก่าของกัวเตมาลาค่ะ
ไกด์ที่พาเที่ยวบอกว่าเชฟคนนี้เป็นเชฟชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศเลยทีเดียว
ก่อนจะพาเข้าชมร้านอาหาร เราแอบเดินทัวร์โรงแรมกันหน่อยดีกว่าค่ะ
โรงแรม นี้เดิมคือ Santo Domingo Monastery
สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงามยังคงถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี แม้จะมีการแต่งเติมให้บรรยากาศทันสมัยขึ้นเล็กน้อยเพื่อใช้เป็นโรงแรม
บรรยากาศสวนแบบเก่าๆแสนจะมีสเน่ห์
ของชื่อดังอีกอย่างของโรงแรมนี้ที่ทำให้เราตาเยิ้มกันเป็นแถบก็คือร้านช็อกโกแลต
และแล้วเราก็ได้ประเดิมควักเงินกัวเตมาลา (quetzal ) ออกจากกระเป๋า เพื่อซื้อช็อกโกแลตชั้นเยี่ยมมาชิม
ราคาแพงกว่าซื้อทรัฟเฟิลจาก Godiva boutique อีกนะคะนี่
พาเดินเข้าร้านอาหารกันดีกว่า
ตอนกลางคืนจุดไฟไว้แพรวพราว
มื้อดินเนอร์นี่คนแน่นขนัด ดีนะที่จองไว้ล่วงหน้า
กระนั้นก็ยังไม่ได้โต๊ะดีๆที่อยู่ใกล้เตาผิง
บริการที่นี่ดีเยี่ยมระดับร้านอาหารฝรั่งเศสชั้นดี
แน่นนอนว่าต้องมีรีเซปชั่นนิสท์สาวสวยคอยต้อนรับ
เช็คชื่อแล้วก็พาเดินไปนั่งที่โต๊ะ
มีบริกรสองสามคนเข้ามาเลื่อนเก้าอี้ ปูผ้าไว้บนตักให้พร้อมสรรพ
ร้านอาหารของที่นี่อยู่กลางสวน เป็นโอเพ่นแอร์ บรรากาศดีเชียว
ลมเย็นๆพัดมาพอหนาวๆ
ถึงอดนั่งใกล้เตาผิงใหญ่แต่เค้าก็มีบริการจุดไฟฮีตเตอร์แบบเสาตั้งๆ มาวางไว้ใกล้ๆ
บริการก็เลิศสมราคาความเป็นร้านชั้นนำ
บริกรเนี๊ยบกริบ รินน้ำข้างไหน กวาดเศษขนมปังอย่างไรก็ทำคล่องตามแบบฉบับร้านฝรั่งเศสไฮโซ
เราเห็นเมนูแล้วก็ตาลุกวาว สั่งกันแบบไม่ยั้งเลยทีเดียว
เมื่ออาหารมาถึงเราก็ต้องตะลึงกันอีกครั้ง
ไม่เสียแรงเป็นร้านที่ไกด์แนะนำมาดิบดี
แค่เห็นหน้าตาอาหารก็ได้คะแนนเกือบเต็มไปแล้ว
จัดรูปแบบได้สวยงามมากๆ สุดแสนจะปลื้ม
และแน่นอนว่ารสชาติที่ได้ลิ้มลองก็ไม่ทำให้ต้องผิดหวัง
ทุกอย่างอร่อยสุดจะบรรยาย
ซุปนั้นเชฟจัดมาให้ชิมถึงสามชนิดด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นซุปครีมเห็ด ซุปหัวหอม และ ซุปมะเขือเทศ
ซุปครีมนั้นหอมๆ นวลๆ รสบางๆแบบผู้ดีฝรั่งเศส
ส่วนซุปหัวหอมนั้นมาแนวฝรั่งเศสแท้ โรยครูตองส์และโป๊ะชีสเยิ้มๆ
รสไม่เค็มจัดเกินไปเหมือนที่หลายๆร้านชอบทำ
ซุปมะเขือเทศก็รสชาติกลมกล่อม
ถึงจะมาถ้วยเล็กกระจิดเดียวแต่เราก็สามารถวนกันชิมจนทั่วโต๊ะได้
Trio of Soup:
Cream Mushroom, French Onion & Tomato Soup
ซุปข้าวโพดที่สั่งมาต่างหากก็รสดีไม่แพ้กัน
Tuna tartare ของที่นี่มาบนอโวคาโดมูส ตกแต่งด้วยไข่นกกะทาและซอสหลากสีสัน
สวยอย่างกับงานศิลปะ
และแน่นอนว่าอร่อยได้โล่ไปอีกหนึ่ง
Tuna tartare served over an avocado half with quail eggs, caviar, olive tapenade, bell pepper coulis, thinly sliced grana padanno, and baguette toasts
เป็ดนี่มาอย่างมืออาชีพ ไม่เจ๋งจริงไม่กล้าทำเป็ดมาชมพูขนาดนี้หรอก
เนื้อเป็ดแสนนุ่มมาคู่กับเลนทิล และ แอสพารากัส
ที่เด็ดดวงคือ Gnocchi สีทองอร่าม ข้างนอกกรอบข้างในเหนียวนุ่ม
เห็นรูปแล้วจะละลายอีกรอบ
Duck Breast with Golden gnocchi, lentil and asparagus
สำหรับคนชอบกินเนื้อ สเต็กก้อนยักษ์ก้อนนี้คงเป็นอะไรที่ลืมไม่ลง
เนื้อก้อนโตชุ่มฉ่ำ มีเดียมเป็นมีเดียม มาบนมันบดนุ่มละเอียด และ มะเขือเทศเพิ่มสีสัน
แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการบินมากัวเตมาลาเลยจริงๆ
Pan-seared beef tenderloin served over sauté spinach with gorgonzola cheese and potato
Slow-cooked veal cheek with herbed mascarpone polenta, broccolini, crimini mushrooms, and a chocolate-red wine reduction
เจออาหารจานหลักก็แทบจะยกร้านนี้ขึ้นหิ้งไปแล้ว
แต่…แต่เชฟยังมีลูกเล่นมากกว่านั้น
มาปล่อยหมัดเด็ดอีกรอบที่ของหวานค่า
ดูการจัดจานซะก่อนว่าแนวขนาดไหน
รสชาติก็อย่าให้เซด
ส่งคุณล่องลอยไปได้ง่ายๆเลยทีเดียว
เริ่มจากพานาคอตต้าเนื้อนุ่มละมุนไม่หวานจนเกินไป มาเคียงกับซอร์เบท์ส้ม และส้มฝานเคลือบน้ำตาล
รสเปรี้ยวของซอร์เบท์ส้ม ปนกับรสขมหน่อยๆของเปลือกส้มตัดกับรสหวานอ่อนๆได้อย่างลึกล้ำ
Panna Cotta with Orange Sorbet and Candied Orange
ถัดมาก็เป็นสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลต มีมาทั้งแบบมูส แบบเค้กลาวา
ไอติมถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแนว Salty caramel ที่แปลกใหม่และตัดกันกับรสช็อกโกแลต
แถมมากาฮองก็ทำมาขั้นเทพอีกต่างหาก
Chocolate Plate – Molten chocolate cake, Chocolate Mousse, Salted Caramel Icecream, Raspberry Sauce, Chocolate macaron and Chocolate lollipop in Chocolate candies jar
จานสุดท้าย ดูเหมือนธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดาเลยสักนิด
เค้กอัลมอนด์ที่เอาใจลูกค้าด้วยการมากับไอติมวานิลลา โรยถั่วมาข้างๆให้พอมี texture ที่ตัดกัน
ปักแผ่นน้ำตาลบางกรอบมาพอสวย
ที่เด็ดแบบสุดยอดคือกล้วยกับซอส ที่แน่นอนว่าเป็นซอสรัม เคี่ยวมาจนข้นแล้วราดมาเยิ้มๆ
โอ้ สุขใจเหลือจะกล่าว
Almond cake with vanilla icecream, candied walnut, rum glazed banana and caramel sauce
สรุปว่ามื้อนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
มั่นใจเลยว่า ถ้าอาหารแบบนี้ไปกินที่บอสตัน นิวยอร์กหรือซานฟราน ราคาจะต้องเกินร้อยเหรียญ
ดีไม่ดีเฉียดๆสองร้อย
แต่ความที่ค่าเงินและค่าครองชีพที่กัวเตมาลาไม่โหดร้าย มื้อมหัศจรรย์มื้อนี้จึงมีราคาแค่ราวๆสามสิบดอลลาร์
โอ้วแม่เจ้า อยากย้ายไปนั่งกินนอนกินที่กัวเตมาลาเป็นการถาวรเสียจริงๆ
หวังว่าพาเที่ยวไกลคราวนี้คงถูกอกถูกใจกันบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
พบกันใหม่รีวิวหน้าค่า