วันนี้ได้รับเกียรติจากร้าน Botejyu (โบเทจู) ร้านโอโคโนมิยากิเก่าแก่จากเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ให้มาลองชิมโอโคโนมิยากิสไตล์โอซาก้าแท้ๆ ของที่นี่ค่ะ
ร้าน Botejyu กำเนิดขึ้นเมื่อปีค.ศ.1946 ที่เมืองโอซาก้า ชื่อร้านเกิดจากคำสองคำ คือ bote ซึ่งเป็นเสียงตอนกลับด้านโอโคโนมิยากิ ส่วนคำว่า jyu คือเสียง sizzling บนกระทะร้อนค่ะ เมื่อรวมกันจึงเป็นเสียงของความอร่อยของโอโคโนมิยากิของทางร้านนั่นเอง
โอโคโนมิยากิของร้านจะกรอบนอกนุ่มใน ใช้ท้อปปิ้งต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ จุดเด่นของร้าน Botejyu คือเป็นร้านโอโคโนมิยากิร้านแรกที่ริเริ่มใส่มายองเนสในโอโคโนมิยากิค่ะ ซึ่งในสมัยค.ศ.1946 นั้นมายองเนสยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในญี่ปุ่นมากนัก ทางร้านจึงคิดค้นมายองเนสสูตรเฉพาะขึ้นมาเพื่อเพิ่มความอร่อยให้โอโคโนมิยากิมากยิ่งขึ้น
จากความอร่อยที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันนี้ร้าน Botejyu มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมทั้งประเทศไทยมากกว่า 87 สาขา
ร้าน Botejyu อยู่ที่ชั้น 2 โครงการ Nihonmachi สุขุมวิท 26 ค่ะ มาถึงหน้าร้านจะเห็นโมเดลอาหารของทางร้านตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่น
พอเข้ามาข้างในก็จะมีครัวเปิด สามารถดูเชฟแสดงฝีมือทำโอโคโนมิยากิได้ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากเชฟต้องไปเรียนวิธีทำโอโคโนมิยากิถึงญี่ปุ่นแล้ว ทางร้านก็นำเข้าวัตถุดิบจากญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ เพื่อให้รสชาติอาหารเหมือนสูตรต้นตำรับ
สั่งเครื่องดื่มไปสักพักพนักงานก็นำอาหารจานแรกมาเสิร์ฟค่ะ Botejyu’s Crispy Salad (Sesame Dressing) มีให้เลือกสองไซส์ คือ R (160 บาท) และ M (100 บาท)
สลัดโบเทจู มีกะหล่ำปลี แครอท หัวไชเท้าฝอย โรยหน้าด้วยแผ่นปอเปี๊ยะและงาขาว ผักสด กรอบอร่อยค่ะ แผ่นปอเปี๊ยะทอดช่วยเพิ่มความกรุบกรอบขึ้นอีก เคี้ยวเพลินค่ะ ทานกับน้ำสลัดงาสูตรเฉพาะของทางร้านที่หอม อร่อยกลมกล่อม เรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ
จานถัดมาเป็น Tonpei-yaki Pork (180 บาท) หรือ หมูห่อไข่ ราดด้วยซอสโอโคโนมิยากิและมายองเนส ที่เชฟวาดเป็นลายมาอย่างสวยงาม ไข่ทำมาแบบไม่สุกมาก เนื้อหมูนุ่ม และมีเบคอนเพิ่มความกรอบ
ทานเมนูนี้เสร็จแล้วก็ชมเชฟทำเมนูต่อไปพลางๆ โอโคโนมิยากิของที่นี่ใช้เวลาทำประมาณ 15-20 นาที อาจจะนานไปสักนิดแต่ว่าเชฟพิถีพิถันทุกขั้นตอนเพื่อให้ลูกค้าได้ทานของอร่อยค่ะ
เมื่อเชฟทำโอโคโนมิยากิทีละขั้นตอนจนเสร็จแล้วก็จะเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน โอโคโนมิยากิของร้าน Botejyu นี้จะใส่ปริมาณซอสมาตามต้นตำรับ แต่ถ้าใครอยากปรุงเพิ่มก็ได้ค่ะ มีซอสโอโคโนมิยากิสูตรหวานและสูตรเผ็ดวางไว้ให้บนโต๊ะเลย นอกจากนี้ก็มีปลาแห้ง และสาหร่ายป่นให้เลือกปรุงกันตามใจชอบ
ซอสโอโคโนมิยากิของร้านไม่ใส่น้ำมัน เป็นสูตรต้นตำรับของร้านที่ผสมผัก ผลไม้ และเครื่องเทศกว่า 30 ชนิด ทำให้ได้ซอสรสชาติกลมกล่อม
เมนูที่เชฟเพิ่งทำเสร็จคือ Premium Moonlight Egg Okonomiyaki (360 บาท) มีเนื้อสัตว์หลายอย่างทั้งเนื้อหมู ปลาหมึก กุ้ง และยังใส่มันยามาอิโมะเพิ่มความเหนียวนุ่ม ด้านบนเป็นไข่ดาว ไข่แดงเยิ้มๆ และโรยหน้าด้วยปลาแห้ง เมนูนี้เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยเนื้อวากิวที่เชฟทำออกมาได้นุ่มสุดๆ
เมนูสุดท้ายของวันนี้ คือ Omusoba ยากิโซบะห่อไข่ (390 บาท) ไข่ทำออกมาได้เนียนนุ่มตามสไตล์ญี่ปุ่น
ข้างในอัดแน่นไปด้วยเส้นโซบะ เนื้อหมู เนื้อวากิว ปลาหมึก และกุ้ง เมนูนี้ส่วนผสมอัดแน่นมากจริงๆ ค่ะ เนื้อหมูและเนื้อวากิวนุ่มมาก ส่วนปลาหมึกกับกุ้งก็สดกรอบ ทานกับซอสโอโคโนมิยากิ ซอสมะเขือเทศและมายองเนสเข้ากันเป็นอย่างดี ซอสมะเขือเทศของร้านก็ใช้มะเขือเทศอย่างดีเคี่ยวกับหัวหอมเป็นเวลาครึ่งวัน เพื่อดึงความหวาน นุ่ม ของมะเขือเทศออกมา
ใครที่ชอบทานโอโคโนมิยากิขอแนะนำให้มาลองทานที่ร้าน Botejyu ค่ะ ได้ทานโอโคโนมิยากิรสชาติต้นตำรับ ทำจากวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพดี รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ