วันนี้มีร้านไอศกรีมแบบพรีเมี่ยมมาแนะนำเพื่อนๆ ค่ะ ร้านนี้ทั้งน่ารักน่านั่ง แถมไอศกรีมก็อร่อยมาก
ทานแล้วติดใจจนต้องรีบมาเล่าสู่กันฟังให้ได้ตามรอยไปฟินค่ะ
ร้าน Ampersand Boutique ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ น่ารักตกแต่งเรียบง่ายสบายตาแต่ก็มีความทันสมัยอยู่ในที
ที่ร้านมีไอศกรีมรสชาติแปลกใหม่ให้ลองชิมมากมาย โดยคุณยิ้มเจ้าของร้านผู้ซึ่งได้ไปร่ำเรียนศาสตร์แห่งการทำไอศกรีมมาจากหลายสถาบันชื่อดังได้ลงมือสรรสร้างรสชาติต่างๆ ด้วยตนเอง โดยได้แรงบันดาลใจจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของหลายๆ ประเทศทั่วโลก นอกจากจะใช้สูตรพิเศษที่ทำให้เนื้อ Gelato ของที่นี่ออกมามีเนื้อเนียนนุ่มเป็นพิเศษ วัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ ก็ได้ผ่านการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทางร้านจะมีลูกค้าขาประจำมากมายที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนกันอยู่ไม่ขาดสายเพราะรสชาติไอศกรีมของที่นี่เป็นเอกลักษณ์ คุณยิ้มปรับสูตรแล้วปรับสูตรอีกตามคำแนะนำติชมของลูกค้าจนได้ผลสุดท้ายออกมาเป็นรสละมุนละไมที่สุดแสนจะลงตัว ใครที่ได้ชิมก็มักจะติดใจกลายเป็นขาประจำกันไป
แถมใครที่เป็นแฟนๆ ขนมหวานก็จะได้ถูกใจกับไอเดียเก๋ไก๋ของชุดขนมหวานของทางร้านที่คุณยิ้มใช้พลังความสร้างสรรค์คิดค้นเมนูออกมาตามธีมประเทศต่างๆ โดยนำขนมหลากหลายชนิดมาจับคู่กับไอศกรีมได้อย่างลงตัว
อย่าง English inspired Early Grey Gelato & Scones นั้นก็เป็นการจับเอา Gelato รสชาเอิร์ยเกรย์ที่หวานน้อยแต่เด่นที่กลิ่นหอมละมุนของชาสมเป็นสูตรผู้ดีอังกฤษมาเคียงคู่กับสโคนชิ้นน่ารักเนื้อนุ่มหอมกลิ่นเนยทำให้เรารู้สึกเสมือนได้ทานชุดน้ำชายามบ่ายกันเลยทีเดียว
ตัวไอศกรีมเอิร์ลเกรย์ที่นี่หวานน้อยและหอมสุดๆ ติดใจขนาดที่สั่งซื้อกลับบ้านไปอีกหนึ่ง pint เต็มๆ เชียวค่ะ
อีกคู่ที่จับคู่มาได้น่าสนใจก็คงหนีไม่พ้นเมนู ทั้ง Canadian inspired Maple Bacon Gelato & Pancakes
ตอนแรกที่ได้อ่านชื่อเมนูนี้ก็อาจทำให้หลายๆ คนประหลาดใจกับการนำเอาเบคอนที่เป็นอาหารคาวมาใช้ในอาหารหวาน แต่เมื่อทาน Candied Bacon ชิ้นนุ่มที่ให้มาพร้อมกับตัว Gelato และแพนเค้กที่ราดเมเปิ้ลไซรัปมาชุ่มฉ่ำเราก็ค้นพบว่าคอมโบนี้เข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ
เมนูอเมริกัน American inspired Whoopie Pie with Hazelnut Gelato ก็ไม่น้อยหน้า เอาใจคนรักช็อกโกแลตโดยการจับคู่ Whoopie Pie ชิ้นโตเนื้อนุ่มที่มีรสช็อกโกแลตเข้มข้นเข้ากับไอศกรีมเนื้อเนียนที่เลือกรสใดก็ได้มาแทนที่ไส้ที่ตามปกติแล้วจะเป็นครีม ออกมาได้เป็นเหมือนไอศกรีมแซนด์วิชที่หวานและเย็นชื่นใจกัดแล้วจะได้รสช็อกโกแลตที่ซึมซาบด้วยรสนมๆ ครีมๆ ของไอศกรีมเต็มปากเต็มคำ
ถัดมาเป็นเมนูที่ทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เป็นเมนูสุดครีเอทของวัน กับเมนู Brazilian inspired Pao de Queijo (Brazilian cheese bread) with Coffee Gelato
จานนี้ลงตัวสุดๆ กับการผสมผสานขนมปังชีสหนืดๆ กลิ่นเข้มเฉพาะตัวตามสูตรของชาวบราซิลเข้ากับ Gelato กาแฟรสเข้มข้น ช่างเป็นความเหมาะเจาะพอดีที่สร้างความประทับใจให้ผู้ได้ชิม
ถ้าไม่สั่งไอศกรีมคู่กับขนมหวานเราก็สามารถสั่งไอศกรีมรสต่างๆ มาลองจับคู่กันให้ลงตัว
อย่าง Pistachio & Chocolate ก็เป็นอีกสองรสที่เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทางร้านใช้ถั่วพิสตาชิโอคุณภาพสูงปริมาณมากในการทำ Pistachio Gelato รสนี้ พิสตาชิโอจึงเป็นรสเดียวที่ราคาสูงกว่ารสอื่นๆ แต่พอได้ชิมแล้วก็เข้าใจทันทีว่าทำไมแม้จะราคาสูงกว่าแต่รสนี้กลับเป็นรสที่ขายดิบขายดี นั่นก็เป็นเพราะความเหนือชั้นของรสชาติที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Pistachio Gelato ที่อร่อยที่สุดที่เคยชิมมาด้วยความที่ตัวไอศกรีมหวานน้อย ทานแล้วจึงได้รสถั่วเน้นๆ ที่รับรองว่าคนชอบถั่วพิสตาชิโอจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ชิม Gelato มาหลายรสเราก็มาลองชิม Sorbet กันบ้าง Sorbet ของที่นี่เป็นเกล็ดๆ รสชาติมักเป็นผลไม้รสอมเปรี้ยว อย่าง (Yuzu sorbet) หรือกลิ่นดอกไม้ อย่างรสอัญชันมะนาว (Butterfly pea and lime sorbet) ทานแล้วให้ความสดชื่น
ในส่วนของไอศกรีมนั้น ถ้วยไซส์ S ราคาอยู่ที่ 79 บาท ส่วนไซส์ L ราคา 139 บาทนะคะ
นอกจากไอศกรีมทางร้านก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็นให้บริการอีกมากมาย เราเลือกลองชิมยุซุปั่นที่หอมกลิ่นยุซุมากและทำรสออกมาอมเปรี้ยวอมหวานกำลังดี
โดยรวมแล้วประทับใจกับร้าน Ampersand เป็นอย่างมาก ทั้งด้านวัตถุดิบ รสชาติ และความคิดสร้างสรรค์ เป็นอีกร้านที่เรามั่นใจว่าคงต้องกลับมาทานกันอีกบ่อยๆ อย่างแน่นอน
ส่วนใครที่อยากลองชิม Gelato เนื้อเนียนนุ่มของทางร้านโดยไม่ต้องเดินทางไปไกล ทางร้านจะมีออกบูทตามงานต่างๆ อยู่เนืองๆ รวมถึงล่าสุดก็ได้มาเปิดสาขาใหม่ที่ Central World เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ