สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปชิมบุฟเฟต์กันให้พุงกางกับโปรโมชั่น Grand Buffet ที่ห้องอาหาร Flavors จัดขึ้นเนื่องในโอกาสฉลองโรงแรม Renaissance Bangkok Rachaparsong Hotel ครบรอบ 5 ปีค่ะ
โอกาสพิเศษๆอย่างนี้ทาง Flavors ได้จัดสุดยอดบุฟเฟต์อาหารนานาชาติ ที่รวมอาหารจากห้าเชฟยอดฝีมือมาให้คุณลิ้มลอง โดยโปรโมชั่นนี้จะเป็นบุฟเฟต์อาหารมื้อเย็น ทุกวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสเวลา 18.00-22.00น โดยจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมไปจนสิ้นสุดเดือนมิถุนายนนี้ด้วยสนนราคา 1,590++ ต่อท่าน
ข่าวดี ! สำหรับท่านที่มีบัตรสมาชิกโรงแรมในเครือ Marriott บัตรเครดิต citibank หรือบัตรเครดิต SCB Private/First จะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมคือมาสองจ่ายหนึ่งอีกด้วยค่ะ
ห้องอาหาร Flavors ตกแต่งด้วยโทนสีเขียวและหินอ่อนเป็นหลัก ดูสบายตาและเรียบหรูอยู่ในที
บริเวณภายในห้องอาหารก็กว้างขวางสามารถจุแขกได้มาก เหมาะกับการพาเพื่อนฝูงมาสังสรรค์หรือพาครอบครัวมาทานกันพร้อมหน้าพร้อมตา
เมื่อก้าวเข้าไปถึงคุณก็จะได้ตื่นตากับไลน์บุฟเฟต์ยาวเหยียดที่มีสารพัดอาหารนานาชาติให้คุณเลือกสรร
สำหรับช่วงนี้ทางห้องอาหารจะไฮไลท์รายการอาหาร สเปน ไทย จีน อินเดีย และ เม็กซิกันเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีสเตชั่นแยกกันและมีเมนูสร้างสรรค์ของอาหารประจำชาติจากเชฟทั้งห้าท่านห้าสัญชาติที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่ารสชาติที่ได้ลิ้มลองจะเป็นรสชาติต้นตำรับแท้ๆสูตรดั้งเดิม
ในส่วนของอาหารสเปนนั้น เชฟ Jose ผู้เป็น Executive Chef ได้เตรียมเมนู หมูหัน (Roast suckling pig) ที่อบมาจนกรอบปรุงรสด้วยกระเทียมและโรสแมรี่จนได้กลิ่นและรสที่แตกต่างออกไปจากหมูหันแบบจีนที่เราคุ้นชิน
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูสตูว์แบบสเปนอีกสามชนิด ไม่ว่าจะเป็น สตูว์ปลาหมึก (Cuttlefish stew with saffron and cumin) สตูว์ผัก (Pisto manchego – Spanish ratatouille) หรือ สตูว์ทะเล (Caldereta de pescados con picada de almendras) ให้เราได้ลองชิม
มาที่สเตชั่นอาหารเม็กซิกันของเชฟ Gustavo เราก็จะได้ทานทาโก้กรอบๆ ทำจากข้าวโพด Tacos de Cornitas ที่มีกัวคาโมลีที่ทำจากอโวคาโด ซาลซ่า และซาวครีมให้ทานคู่กัน
รวมไปถึงเมนูกุ้งมะเขือเทศซอสเตกีล่า (Comarones a la tequila –shrimp with tomato and tequila sauce) ที่รสชาติจัดจ้านแบบเม็กซิกัน
ใกล้กันนั้นจะเป็นสเตชั่นอาหารจีนของเชฟ Leung เชฟห้องอาหารจีน Fei Ya ที่จัดเตรียมเมนู เนื้อผัดสตูว์เห็ดซอสออยซิน (Wok-fried beef, stew mushroom with Hoisin sauce) รวมไปถึงหมูแดงและเป็ดย่าง (Roasted BBQ pork and duck with condiment) ที่มีไว้เอาใจคนชอบทานอาหารจีน
ส่วนอาหารอินเดียนั้น เชฟ Aubdur Azis ก็จัด คีบับไก่ (Chicken Murgh Malai Tikka) และ ข้าวหมกแกะ (Lamb Biryani) ที่หอมเครื่องเทศอบอวลเข้ากับแกะที่หมักมาจนเนื้อนุ่มให้ได้ทานกัน นอกจากจะมีข้าวแล้วก็ยังมี Papa dam กรอบๆให้ทานเคียงด้วย
และแน่นอนว่าเชฟจะต้องจัดเต็มกับเครื่องเทศชนิดต่างๆอันเป็นจุดเด่นของอาหารอินเดีย
อาหารไทยนั้นก็ไม่น้อยหน้าเชฟฉัตรพงศ์จัดอาหารรสจัดจ้านมาให้ทุกคนได้เข้าถึงความแซ่บของอาหารไทย
ที่ขาดไม่ได้ก็ต้องมีส้มตำ
และเมนู ปูผัดผงกะหรี่ ที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกับปูชิ้นโตเนื้อแน่นรสชาติกลมกล่อม
นอกจากโซนอาหารห้าสัญชาติ ไลน์ของอาหารชนิดอื่นๆ ก็ตื่นตาน่าทานไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเลสดๆ ขาปู กุ้ง หอยแมลงภู่
รวมถึงหอยนางรมซึ่งสอบถามได้ความว่าของที่นี่ส่งมาจากเกาหลีเลยทีเดียว
โซนขนมปังและชีสก็ใช้ขนมปังสดใหม่ที่ทำเอง
และยังพิถีพิถันเลือกชีสมาจากหลายมุมโลกทั้ง Blue cheese จากอังกฤษและ Brie จากฝรั่งเศส แถมมีผลไม้แห้งหลายชนิดรวมทั้งเปลือกส้มโอให้ทานคู่กับชีส
อีกทั้งส่วนของ Cold cuts ก็มีให้เลือกมากมายและมีมัสตาร์ดถึงสี่แบบให้เลือกทานคู่กัน
ส่วน Parma Ham นั้นมาคู่กับเมลอน หวานกับเค็มทานแล้วเข้ากันเป็นอย่างดี
สำหรับอาหารญี่ปุ่นก็มีซูชิซาชิมิหลายชนิดรวมถึงโรลที่ตกแต่งสีสันจนสวยงาม
ใครชอบพาสต้าที่นี่ก็ทำสดๆ ใหม่ๆ มีซอสให้เลือกทั้ง Napolitana Bolognese Alfredo ส่วนเส้นนั้นมี Spaghetti หรือ Fettuccini ให้จับคู่ได้ตามชอบใจ
นอกจากนี้ก็ยังมีมุมปิ้งย่างที่ให้คุณเลือกเนื้อวัว เนื้อแกะ หรือ หมูปิ้ง ไก่ย่าง ให้ปิ้งร้อนๆ บริการตามชอบใจ
ถึงเนื้อวัวจะเหนียวไปนิด เนื้อแกะจะแห้งไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงหมูปิ้งกับไก่ย่างแล้วหมักมาได้นุ่มแถมปรุงได้รสชาติเข้มข้นอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน
และที่เด็ดที่สุดไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ตับห่าน (Foie Gras) ที่ทอดมาจนกรอบ แม้จะหั่นบางไปหน่อยจึงค่อนข้างแห้ง
ที่น่าสนใจมากคือเครื่องเคียงที่มีเกลือหลายแบบเช่นเกลือชาเขียวเกลือมะนาว เกลือผสมเม็ดกาแฟ และยังมีซอสอีกสามชนิด ทั้งซอสฟัวกราส์เค็มๆ หวานๆ ซอสมะเขือเทศ และซอสผลไม้ผสมเม็ดแมงลัก ให้เลือกทานคู่กับฟัวกราส์
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือไลน์ของหวานที่ทำให้ใจเราละลายตั้งแต่ได้เห็น ผลไม้สดหลายแบบกับข้าวเหนียวมะม่วงสีสันสดใสตัดกับเค้กหลากสีด้านหลัง ด้วยความที่เป็นคนชอบของหวานมากเราก็เลยชิมเค้กเสียเกือบทุกอย่าง
เค้กที่นี่รสชาติดี โดยเฉพาะ Chocolate Silk Cake เค้กไวท์ช็อกโกแลต มิลค์ช็อกโกแลต ที่อยู่บนฐานที่ทำจากถั่วพิสตาชิโอนั้น อร่อยถูกใจสมที่เป็นเค้ก Signature ขายดีของเบเกอรี่ที่นี่ และ เค้ก Tiramisu ที่หอมกาแฟอ่อนๆกำลังดี
มูสต่างๆก็อร่อยถูกใจไม่แพ้กัน
นอกจากเค้กหลากหลาย ที่นี่ยังมีขนมไทยและไอศกรีมโฮมเมดให้ทานอีกด้วย
ทั้งไอศกรีมวนิลลาและมอคค่า
และ ไอศกรีมรสฝรั่งและรสพันช์
เห็นอาหารคาวหวานมากมายขนาดนี้ หากใครอยากได้ค็อกเทลอร่อยๆ มาทานคู่กันก็สามารถสั่งมาได้ในราคาแก้วละ 220B++ ด้วยค่ะ
ค็อกเทลที่นี่สีสันสดสวย ทั้ง Bangkok Blue (Vodka, Blue curacgo, Lime juice, Syrup, Top soda) สีฟ้าแจ๋ว
และ Juhua (Light rum, Peach vodka, Peach, Pineapple juice , Lime juice, Syrup, Top jasmine tea) สีเหลืองสดใส
จริงๆแล้วยังมีอีกหลายเมนูที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามแต่บาร์เทนเดอร์จะคิดค้นสร้างสรรค์ออกมาในแต่ละเดือนด้วยนะคะ
โดยรวมแล้ว บุฟเฟต์ของห้องอาหาร Flavors นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าสมราคา เพราะมีของครบเท่าที่จะคาดหวังมองหาได้จากบุฟเฟต์นานาชาติระดับโรงแรม อาหารก็มีหลายเชื้อชาติให้ได้ลองรสแปลกใหม่
ร้านนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับใครที่มองหาบุฟเฟต์ที่อาหารหลากหลายพร้อมบรรยากาศดีๆ ในค่ำคืนวันธรรมดาค่ะ
ติดตามชมอาหารเมนูเด็ดและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาจากประสบการณ์ของผู้เขียนได้ที่ IG : FoodiesJournie
ผลงานรีวิวอาหารและท่องเที่ยวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ www.foodiesjournie.com
หรือติดตามได้ที่เพจ www.facebook.com/foodiesjournie นะคะ