สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีในราคาสมเหตุสมผล ชุดอาหารเที่ยงของ The Grill Tokyo เป็นอีกหนึ่งรายการสุดคุ้มที่ส่วนตัวแล้วมักแนะนำให้ใครๆ ไปทาน เพราะร้านนี้คุณภาพสูงระดับพรีเมียม ปกติราคาค่อนข้างแพง แต่สำหรับชุดตอนกลางวันนั้นสามารถเลือกได้ถึงสี่รายการต่อท่านในราคาเพียง 470B++ เมื่อเทียบกับอาหารที่ได้ถือว่าคุ้มทีเดียวค่ะ
โดยเมนูอาหารชุดกลางวันนั้นจะแบ่งออกเป็นสี่หมวด ให้เลือกหมวดละรายการ อันนี้ตรงไปตรงมา
ดังนั้นนอกจากประหยัด ยังช่วยให้ตัดสินใจง่าย เพราะปกติแล้วตัวเองเป็นหนึ่งในมนุษย์เรื่องมาก โดยเฉพาะเรื่องกิน เวลาเจอเมนูที่มีตัวเลือกเยอะๆ อย่างเมนูปกติของร้าน The Grill Tokyo บางทีก็มึนตึ้บไปเหมือนกัน
เริ่มจากหมวดอาหารเรียกน้ำย่อย (appetizers)
หมวดนี้มีห้ารายการเด็ด
ที่เคยกินคราวก่อนแล้วถูกใจก็จะเป็น Carpaccio of young yellow tail ปลาฮามาจิสดๆ ราดน้ำยำรสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ
และ Salad with Smoked Salmon, Herring Roe and Scallop
สลัดแซลมอนรมควัน หอยเชลล์และพิเศษสุดๆ คือมีไข่ปลาแฮริ่งกรุบกรอบมาให้ลองชิม
ส่วนคราวนี้เมนูเปลี่ยนใหม่ เลยต้องชั่งใจกันหน่อย ระหว่าง Salad with Smoked Chicken and Sausage และ Salad with Snow Crab and Crab Butter
ที่สุดแล้วตัดสินใจเลือกอย่างหลัง ซึ่งจานนี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง
สลัดปูนี่ให้ปูมาเยอะมาก แทบจะเรียกว่าปูเยอะกว่าผัก
ทีเด็ดจะอยู่ที่มันปู หรือ kani miso (crab butter) หอมๆ มันๆ ที่ทานด้วยกันกับเนื้อปูและสลัดแล้วเข้ากันสุดๆ
อีกจานเลือกเป็น Camembert Cheese Croquette
โครเกต์ชีสก็เป็นอะไรที่สุดจะฟิน เพราะเสิร์ฟมาร้อนๆ นอกกรอบในนุ่ม
กัดเข้าไปเจอชีสเยิ้มๆ นี่ปลื้มมากๆ
ต่อมาที่หมวดของร้อน ทอดหรือย่าง (Grill & Fry)
เมนูใหม่นี้มีเมนู deep fried หลายอย่าง ทั้ง Deep fried minced chicken and pork, bread crusted และ Deep fried horse mackerel, bread crusted
สองอันนี้ดูน่ากินแต่วันนี้มากันสองคนกับคุณพ่อ คุณพ่อบ่นอยากกินปลาย่าง เลยมาชั่งใจระหว่างซาบะกะฮามาจิแทน จนลงเอยที่ Grilled Hamachi
อันนี้ทำมาดี ย่างเกลือมาได้ไม่เค็มจัด และไม่แห้งเกินไป ซอสหวานๆ ทานง่าย เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี
ส่วนอีกจานเลือกเป็น Fried Oysters ที่ดูไม่กรอบเว่อร์เท่าพวกชุปแป้งเกล็ดขนมปังทอด
หอยนางรมที่นี่ทอดมาร้อนจี๋ ข้างในยังชุ่มฉ่ำ ตอนทานต้องระวังมากๆ ไม่งั้นกัดปุ๊บลวกปากลิ้นพองแล้วจะหาว่าไม่เตือน
ถูกใจที่หอยนางรมที่นี่สดดีไม่มีกลิ่นคาวให้แสลงใจ
ต่อกันที่หมวดข้าวและเส้น (Rice & Noodles)
ด้วยความที่อยากกินปลาดิบเลยจัดเป็น Chopped fresh tuna belly with spring onion and rice
ปกติจะเป็นข้าวหน้าส่วนท้องของปลาทูนาที่คลุกเคล้ามากับต้นหอม แต่ส่วนตัวเกลียดและกลัวต้นหอมประมาณหนึ่งเลยบอกเค้าว่าไม่ต้องใส่ สีเลยออกมาจืดๆ อย่างที่เห็น
ตัวทูน่าสับรสชาติพอใช้ แต่มาเป็นข้าวหน้าในชุดเลยไม่ได้หวังอะไรไว้มากเท่าไร
ถ้าใครอยากกินโอโทโรเจ๋งๆ แนะนำให้สั่งเป็นซาชิมิไปเลยจะฟินกว่าค่ะ (แต่ราคาก็แรงขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน)
ฝั่งคุณพ่อเลือกเป็น Beef Noodle Soup ซึ่งเสิร์ฟมาร้อนๆ ตัวเส้นเล็กบาง ตัวเนื้อแทรกมัน รสชาติดีทีเดียว
ปิดท้ายกันด้วยหมวดขนมหวาน (Desserts)
ดูท่าทางคนแก่จะนิยมของร้อน (แซวคุณพ่อ) เลยเลือกเป็น Senzai – Red bean soup with rice cake
ตัวซุปถั่วแดงมาร้อนๆ ทานคู่กับโมจิเหนียวหนืด โรยข้าวพองกรอบๆ มาให้ด้วย
ดูคุณพ่อจะปลื้มอกปลื้มใจกับจานนี้เป็นอันดี
ส่วนคุณลูกอย่างเราก็เลยเลือกเป็น Blanc Manger หรือพุดดิ้งนมสด รสอ่อนๆ หอมหวาน ปิดท้ายมื้ออร่อยไปอย่างสำราญใจ
โดยรวมแล้วชอบชุดกลางวันของที่นี่เพราะมีตัวเลือกเยอะ แต่ละหมวดมีถึง 4-6 รายการ
ทุกอย่างทำออกมาได้ดี มาตรฐานสูง แถมทางร้านเองก็มีเปลี่ยนเมนูเซ็ตลันช์ไปเรื่อยๆ ในแต่ละเดือนทำให้หมุนเวียนกลับมาชิมได้เรื่อยๆ โดยไม่เบื่อ
อย่างหนึ่งที่ต้องเตือนให้ระวังเล็กน้อยสำหรับร้านนี้คือต้องระวังใจตัวเองนิดค่ะ เวลาเราทานจะมีพนักงานมานำเสนออาหารสดตามฤดูกาล เป็นหอยบ้าง เห็ดบ้าง ปลาดิบบ้าง ไปจนถึงผลไม้สด อันนี้ต้องใจแข็งๆ ปฏิเสธไปแม้ของที่ได้เห็นจะน่ากินสักปานใด เพราะราคามักจะน่าขนหัวลุกประมาณหนึ่งค่ะ หอยบางตัวราคาเฉียดพัน ไปจนถึงมะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่และเมลอนที่ทำให้เงินหลายๆ พันลอยออกจากกระเป๋าคุณได้อย่างสบายๆ หรือถ้ารับได้กับราคาก็ลองสั่งดูได้ค่ะ ของเค้าก็คุณภาพดีจริงๆ
หวังว่าบทความนี้จะชี้ช่องทางให้คุณตามไปชิมอาหารญี่ปุ่นคุณภาพพรีเมียมในราคาที่ทานได้ไม่ถังแตกมากนักนะคะ
จองได้ที่นี่ คลิ้กเลย!
***
อย่าลืมติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com
และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie ค่ะ