สวัสดีค่ะ หลังจากจดๆ จ้องๆ มานานว่าจะไปกิน Sumi Tei Yakiniku ดีไหม เพราะ Buffet Imperial Wagyu A5 มันช่างยั่วใจ แต่ราคา 3499B++ ก็ทำให้ต้องคิดหนัก พอทางร้านประกาศมาว่าพุธแรกของเดือนนี้จะมีโปรพิเศษฉลองครบรอบ 1 ปี กิน 4 จ่าย 3 ทีนี้ก็เลยตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ ว่าแล้วก็ซัมมอนแก๊งนักกินสายแข็งไปจัดเต็มกับบุฟเฟต์ปิ้งย่างแบบพรีเมียมกันทันที
ร้าน Sumi Tei Yakiniku ตั้งอยู่ที่ 9:53 Community Mall ทองหล่อ ซ. 9 การเดินทางค่อนข้างจะยากลำบากอยู่สักหน่อยเพราะเข้าซอยมาลึกพอควร ใครที่เอารถมา ถ้าไม่นับเรื่องรถติด ก็จะเจอปัญหาที่จอดรถ เพราะที่น้อยหายาก ต้องใช้ระบบ vallet คือให้เจ้าหน้าที่ขับไปจอดให้แทน ทางที่จะเข้าไปในส่วน valet parking ก็จะค่อนข้างสับสนนิดนึงค่ะ แนะนำให้ค่อยๆ ชะลอแล้วหาทางเข้าเล็กๆ หลังมอลล์ให้เจอ มาถึงแล้วจะมีลิฟท์เล็กๆ ทางด้านขวาค่ะ ขึ้นไปที่ชั้นสาม เลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะถึงร้านค่ะ เฮ้อ…แค่บรรยายก็เหนื่อยแล้ว พอได้นั่งก็ได้เวลาตาลุกวาวค่ะ เพราะเมนูมีถึงสองหน้าใหญ่ๆ เด็ดๆ ทั้งนั้น ตัวท็อปเทพๆก็เห็นจะเป็นวากิว A5 ที่ว่านี้ล่ะค่ะ นอกจากเมนูเนื้อวัวยาวเหยียดก็มีไก่มีหมูไปตามเรื่อง อีกหน้าจะเป็นผัก เครื่องเคียงต่างๆ ซุป และข้าว มีข้าวยำแบบเกาหลีด้วยนะคะ แต่วันนี้ขอเมิน กลัวตัดกำลัง 555 จิ้มกันอย่างเมามันเลยได้รายการอาหารมาเยอะมาก ทุกคนเตรียมความหิวมาอย่างเต็มพิกัดเลยสั่งไม่ยั้ง
เปิดตัวกันเลยด้วย Imperial Wagyu A5 ตัวแพงสุดคือเนื้อสันนอก Tokusen Sirloin จานนี้อลังการสมชื่อ เนื้อแทรกลายมันทั้งชิ้น กัดแล้วนุ่มฉ่ำ มาพร้อมใบรับรองด้วยนะเออ ต่อด้วยสเต็ปถัดมา ยัง A5 เช่นเคย Tokusen Rib Rosu
จริงๆ ก็อร่อยมากอยู่ค่ะ แต่ส่วนตัวชอบตัวสันนอกแพงสุดมากกว่า มันนิ่มกว่าอ่ะ อีกสองตัวที่เป็น A5 จะเป็น Tokusen Wagyu Rosu และ Tokusen Brisket ค่ะ
มาแบบบางเฉียบทั้งสองตัว ตอนปิ้งต้องตั้งใจมากค่ะ ไม่อย่างนั้นเผลอแป๊บเดียวไหม้เกรียมเลย…เสียดายของ
อีกตัวที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ Tokujyo Tan Shio หรือลิ้นวัวปรุงรสด้วยเกลือค่ะ (แบบปรุงรสด้วยซอสก็มีแต่เราไม่ชอบซอสเลยไม่ได้สั่งกัน)
รสสัมผัสหนึบๆ เด้งๆ กำลังเคี้ยวมัน อร่อยจนสั่งกันไปหกจานแน่ะ! ปกติชอบส่วนซี่โครงค่ะเลยลองสั่ง Jyo Karubi มาลองที่นึง
จริงๆ ก็พอใช้ได้นะคะ แต่เรื่องของเรื่องคือกิน A5 ไปแล้วไงคะ มากินแบบธรรมดาๆ มันเทียบไม่ติดเลย ของธรรมดาสั่งจานเดียวพอละกัน อิอิ ใครอยากกินหมูสลับกันบ้างก็มี Buta Karubi Tare และ Tontoro Garlic Sauce
รสชาติออกมาดีเลยนะคะ Tontoro มันเยอะ เนื้อนิ่มมาก แต่แน่นอนว่ากินหมูไม่ฟินเท่ากินเนื้อ ไก่นี่เราไม่ลองเลยค่ะ เก็บที่ในกระเพาะไว้ให้เนื้อดีกว่า อ่อ แต่สั่งข้าวผัดกระเทียมมาด้วยค่ะ เพราะกินเนื้อเฉยๆ ไม่มีข้าวก็ไม่ชิน ที่นี่ทำอร่อยนะคะ ไม่เค็มเกิน รสกลมกล่อมกำลังดี
อิ่มกันขนาดนี้ก็ยังมีกระเพาะที่ห้าไว้ให้ของหวาน
ที่นี่มีไอศกรีมกับ cereal ให้กินล้างปากปิดท้ายค่ะ วันนี้ช็อกโกแลตกับคุ้กกี้แอนด์ครีมละลายจนนิ่มเสิร์ฟไม่ได้ เลยได้ทานแค่ชาเขียวกับวนิลาค่ะ จบมื้อไปอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ โดยรวมเราถือว่าออกมาดีสมราคาไม่ผิดหวังนะคะ บริการใช้ได้ค่ะ ที่โต๊ะมีปุ่มกดเรียกพนักงาน เรียกมาเพิ่มถ่านเปลี่ยนตะแกรงอะไรก็ทำให้หมดแม้จะค่อนข้างช้าต้องใจเย็นรอกันนิดนึง เนื้อตัวพรีเมียมนี่เจ๋งจริง ถ้าไปบุฟเฟต์ก็คงแนะนำให้เน้นทานตัว A5 โดยเฉพาะ Sirloin และ Rib ใครที่พลาดอย่าเพิ่งเสียใจเพราสามารถไปทานเป็น A la carte ได้เช่นกันหรือถ้าอยากจัดหนักอย่างเราบ้างก็รอจองพุธแรกของเดือนถัดๆไปซึ่งยังจะมี buffet ในราคา 3,499 B++ ต่อท่านค่ะ
*** ติดตามงานเขียนอื่นๆ ของเราได้ที่ www.foodiesjournie.com และแวะไปพูดคุยทักทายกันได้ที่หน้าเพจ www.facebook.com/foodiesjournie นะคะ