สวัสดีค่ะ
ใกล้ช่วงที่ใครๆ ก็พากันเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่นกันอีกแล้ว ก่อนจะเดินทางก็มีหลายอย่างเลยที่ต้องคิดตระเตรียมไว้ให้เรียบร้อย วันนี้เลยเอาเคล็ดลับง่ายๆ 3 ข้อมาฝากกันค่ะ
1. ดูแลตารางการเดินทาง รายละเอียดสายการบิน เที่ยวรถไฟ และเตรียมตั๋วให้พร้อม
ใช่ค่ะ ก่อนจะได้เที่ยวก็ต้องเริ่มจากการเดินทางไปให้ถึงสถานที่ท่องเที่ยวใช่ไหมคะ และหากจะไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันจนทำให้เสียเวลาและหมดสนุก จุดนี้ล่ะค่ะที่สำคัญที่สุดที่ต้องคิดคำนึง ปกติแล้วระหว่างวันเราจะค่อนข้างยืดหยุ่น ผิดแผนบ้าง ไม่ครบบ้างไม่มีปัญหา แต่ถ้าตกรถตกราขึ้นมานี่อาจจะกระทบยาวไปถึงอีกหลายๆ วันต่อมา ดังนั้นส่วนนี้ต้องแม่นค่ะ
ถึงเดี๋ยวนี้หลายๆ อย่างจะทำได้ online ก็แนะนำให้ปรินท์ตั๋วและรายละเอียดการจองทุกอย่างใส่ซองหรือแฟ้มใสไว้กันเหนียวค่ะ หลายๆ ครั้งเครื่องมือสื่อสารแฮงค์บ้างแบทหมดบ้าง ไม่สนุกแน่ๆ
นอกจากนั้นให้ดูรายละเอียดไว้ให้ครบเลย ตั้งแต่วันเวลาเดินทาง บางทีเป็นช่วงกลางคืนข้ามไปวันใหม่ สับสนทีนี่เป็นเรื่องเลยนะคะ เรื่องดูง่ายๆ แค่นี้มีคนจองตั๋วผิดและตกเครื่องบินมานักต่อนักแล้วค่ะ และที่สำคัญ ญี่ปุ่นตรงเวลามาก อย่างรถไฟนี่เป๊ะกันเป็นวินาที ไม่ดูตาราง ไม่เผื่อเวลากันเหนียวนี่มีเสียวกันแน่ๆ ดูผัง terminal ดูตำแหน่งชานชาลาไว้เลยยิ่งดีค่ะ เดี๋ยวนี้หาในเนตก่อนได้ จะได้ไม่ไปหลงทาง หรือกะเวลาผิดช้อปเพลินเดินขึ้นเครื่องไม่ทัน ถ้าเป็นตั๋วรถไฟแนว JR pass ก็ควรจะอ่านกฏเกณฑ์ให้รัดกุมว่าขบวนไหนขึ้นได้ขึ้นไม่ได้ จองที่นั่งได้ไหม นั่งตู้ไหนได้บ้าง มีช่วงไหนที่วิ่ง express แล้วข้ามสถานีที่เราจะลงรึเปล่า ที่ว่าเจ็ดวันสิบวันนับกันอย่างไร จะได้ไม่ต้องไปปวดเศียรเวียนเกล้ากันหน้างาน
จากนั้นให้ดูเรื่องข้อกำหนดดีๆ ค่ะ สำหรับเครื่องบิน ดูเรื่องน้ำหนัก ขนาด และจำนวนกระเป๋ากันไว้เลย เดี๋ยวนี้ทุกสายการบินเข้มงวดมาก โดยเฉพาะ Low cost airline ที่จะไม่อะลุ่มอล่วยให้คุณผ่านไปได้ง่ายๆ แน่ๆ งานนี้ต้องมีเสียเงินเพิ่มกันแน่นอน ดูเฉยๆ ไม่พอต้องคิดเผื่อขากลับค่ะ คนไทยนักช้อปอยู่แล้ว น้ำหนักงอกแน่นอนถ้าขาไปไม่ pack light เข้าไว้ ไปรื้อของทิ้งที่สนามบินหรือเสียเงินนี่เสียอารมณ์แน่นอน จัดของกันแต่พอดีดีกว่าค่ะ
2. ปักธงพิกัดสถานที่น่าสนใจในเมืองต่างๆ ไว้ในแผนที่ให้เรียบร้อย
ไปต่างประเทศทั้งที ทุกคนก็คงอยากใช้เวลาให้คุ้มค่า ให้ได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศพร้อมชื่นชมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติรอบตัว การหลงทางจึงเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็คงไม่อยากจะพบเจอ
หนึ่งในวิธีที่จะทำให้เราได้เที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพก็คือการวางแผนคร่าวๆ ที่สถานที่น่าเที่ยวในเมืองที่จะไปค่ะ
ส่วนตัวแนะนำ http://www.japan-guide.com/
เมื่อรู้ที่หลักๆ ที่สนใจแล้วให้ปักหมุดลงในแผนที่เลยค่ะ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีหลายแอพที่ให้ดู map ได้ offline ทำไว้แล้วสะดวกสบายมากๆ เลย เพราะสมมติเวลาน้อย หากจะต้องข้ามที่ใดที่หนึ่งไป จะได้เห็นคร่าวๆ เลยว่า สิ่งน่าสนใจต่อไปที่ใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหน เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางพร้อมหา route ใหม่ได้ทันที
นอกจากนี้หลายๆ ครั้งที่เราวางแผนกันตามย่านตามโซน แต่จริงๆ แล้วสถานที่ที่อยู่ขอบโซนหลายๆ อันก็ใกล้กันมาก พอปักหมุดครบ ที่นี้ก็ช่วยในการวางแผนจัดกลุ่มตั้งแต่ต้นได้เลยว่า เช้าเราจะไปอันไหน บ่ายเราจะไปอันไหนบ้าง ที่ประหยัดเวลาได้มากที่สุด
และด้วยความเป็นนักกิน เราแนะนำให้แปะสถานที่กินไว้ด้วยเลยทีเดียวค่ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ร้านดังอันดับหนึ่งปิดพอดี ที่เต็ม ฯลฯ เราก็ควรมีแผนสำรองร้านอันดับสองสามสี่กระจายไว้ในแผนที่ อันนี้เผื่อหิวก่อนเวลาที่แพลนไว้จะได้หาพิกัดร้านใกล้ๆ ได้ด้วยเลยทีเดียว ถ้าทำการบ้านตรงนี้ดี อะไรๆ ก็กลายเป็นเรื่องง่าย เที่ยวสบายได้หลายๆ ที่ในหนึ่งวันโดยไม่เหนื่อยเลยค่ะ
3. โหลดแอพ Free-wifi เตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเดินทาง
กาลเวลาเปลี่ยนไปการเดินทางก็ง่ายขึ้น สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้ามีอะไรก็เสิร์จหาได้ หลงทางก็หาทางเจอ อยากหาของอร่อย อยากค้นประวัติสถานที่เพิ่มก็ทำให้ทันที การมี wifi จึงสำคัญสุดๆ
หลังๆ คนก็นิยมเช่าเป็น pocket wifi กันมากขึ้นซึ่งก็สะดวกสบายใช้เชื่อมต่อได้หลายเครื่อง แต่ก็จะแพงหน่อยเพราะนับเป็นวัน แถมมีจุดบอดคือต้องอยู่ในรัศมีระยะสัญญาณ
ส่วนตัวเลยขอแนะนำให้ใช้เป็นแอพ Japan Connected-free Wi-Fi ด้วยค่ะ อันนี้โหลดได้สะดวกสบายตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง iOS ก็ได้ Android ก็มี ที่สำคัญคือฟรีอีกต่างหาก
เมื่อลงเครื่องถึงสนามบินก็เชื่อมต่อได้ทันทีค่ะ จากนั้นก็เพียงลงทะเบียนด้วย ชื่อ อีเมล เพศ อายุ หรือใช้เฟซบุ๊คลงทะเบียนก็ได้ เท่านี้เสร็จจบ สามารถใช้งานได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าสนามบินอย่าง นาริตะ ฮาเนดะ ฟุกุโอกะ โอซากา นาฮา เซ็นได ชินชิโตเสะ อาริอาเกะ-ซากะ คาโกชิมา มีกันครบ
การใช้งานหลังจากนั้นก็สะดวกสบาย ถ้าเข้าระบบรถใต้ดินหรือเมโทรก็เชื่อมต่อได้ด้วย
“Metro_Free_Wi-Fi” ค่ะ ซึ่งจะใช้งานได้ครั้งละสามชั่วโมง แต่หลุดแล้วก็ต่อใหม่ได้อีกเรื่อยๆ หรือง่ายๆ ก็คือใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดดีๆนี่เองแหละค่ะ
นอกจากจะมีในสถานีเมโทรถึง 143 สถานี แอพนี้ก็ยังให้คุณเชื่อมต่อ wifi ได้ในอีกมากมายหลายจุดไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า อาคารใหญ่ และ สถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง
หากหลงทางคลาดกันไปไหน ถ้าไม่เปิด roaming ไว้ wifi จากแอพแบบนี้นี่แหละที่จะเป็นตัวช่วยชีวิต วิ่งเข้าเมโทรหรือร้านสะดวกซื้อที่มีอยู่ถี่ๆ ก็ตามหาเพื่อนๆ ได้ทันที
อ้อ แอพนี้มีภาษาไทยด้วยนะคะ ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าจะกดผิดกดถูกหรือใช้ยากลำบาก ที่ชอบสุดๆ คือแม้จะฟรีแต่สปีดดีโหลดเร็วทันใจเกินคาดเลยค่ะ มีไว้ไม่เสียหลายแน่นอน เลยต้องยกให้เป็นหนึ่งในการเตรียมตัวที่สำคัญลำดับต้นๆ เลย
เห็นไหมละคะ การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นให้สมูทและสบายไม่ได้ยากเลย เพียงใช้เวลาจัดการกับเรื่องเล็กๆ ที่แนะนำ ทำการบ้านกันดีๆ ทุกคนก็จะได้เที่ยวอย่างสุขใจและใช้เวลากันได้อย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อสร้างความทรงจำดีๆ ที่จะไม่มีวันลืมเลือนกันค่ะ