Punjab Grill Bangkok บุฟเฟต์อาหารอินเดียแบบ fine dining ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับหลากเมนูอร่อยถูกใจ

สวัสดีค่ะ

แต่ก่อนหลายครั้งหลายหนที่พอชวนใครไปทานอาหารอินเดียก็ดูเหมือนแต่ละคนจะมีอาการกล้าๆ กลัวๆ กันอยู่บ้าง หากตอนนี้ดูเหมือนหลายๆ คนจะเปิดใจลองลิ้มรสอาหารสัญชาติใหม่ที่รสจัดจ้านและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของเครื่องเทศหลากหลาย

วันนี้เราเลยจะพาทุกๆ ท่านไปชิมสารพัดสารพันเมนูอาหารอินเดียรสชาติเยี่ยมในบรรยากาศดีๆ ที่ Punjab Grill Bangkok กันค่ะ โดย Sunday Brunch Buffet ของที่นี่ (12.00-15.00น) สนนราคาอยู่ที่ 1,300 บาทสุทธิต่อท่าน แถมยังมีโปรมา 4 จ่าย 3 สุดคุ้ม มิหนำซ้ำ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปียังทานฟรีอีกต่างหาก ซึ่งราคานี้ได้รวมเครื่องดื่มอย่างน้ำเปล่า น้ำอัดลม lassi และ masala tea ไว้เรียบร้อย ส่วนใครที่อยากจิบเป็น beers, wines or Prosecco ก็สามารถสั่งเป็น free flow ได้ในราคาเพิ่มขึ้น 600 บาทต่อท่าน

Punjab Grill Bangkok นั้นตั้งอยู่ที่ Radisson Suites Bangkok หากนำรถเข้ามาก็มีที่จอดสะดวกสบาย หรือหากมาทางรถไฟฟ้า ทางร้านก็มีบริการ pick up โดยสามารถโทรเรียกที่เบอร์ 0-2645-4999 เพื่อรับส่งได้จากห้าจุด ดังนี้ 1. BTS: Nana station (exit Soi Sukhumvit 11) 2. Terminal 21 gate 2   3. In front of McDonald’s (Robinson Sukhumvit branch) 4. ปากซอย ซอยสุขุมวิท 13   5. ท่าเรือนานาชาติ ติดคลองแสนแสบ ท้ายซอยสุขุมวิท 15

เมื่อมาถึงก็จะพบกับร้านตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าโรงแรม

1-front

ทางเข้าอยู่ใกล้กับตัวล็อบบี้ของโรงแรม

2-entrance

เมื่อเข้ามาก็จะได้พบกับร้านที่กว้างขวางโอ่โถง

4-ambiance-2

ด้านในนั้นตกแต่งอย่างสวยงามด้วยม่านโปรงดูคลาสสิกสบายตา

3-ambiance-1

มุมไหนสวยถูกอกถูกใจก็บอกทางบริกรได้เลย

6-ambiance-4

สำหรับอาหารนั้น จุดเด่นของที่นี่เห็นจะเป็น live cooking stations ที่มีถึงหกอันด้วยกัน ตั้งแต่

Grill station

15-grill-station-1

มุมปิ้งย่างที่ให้คุณได้อร่อยไปกับเนื้อแกะ เนื้อกุ้ง และเนื้อไก่

18-veg-non-veg-grills

ส่วนตัวชอบเนื้อแกะมากเพราะเนื้อนุ่มสุกพอดี แถมปรุงมาได้ดี และไม่มีกลิ่นสาบให้ระคายใจ

19-veg-non-veg-grills-2

โซนนี้ยังมีอาหารย่างสำหรับคนทานมังสะวิรัติอย่างชีส paneer ย่าง เห็ด บร็อคโคลี่ และดอกกะหล่ำย่าง ไปจนถึงข้าวโพดย่างที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศเพิ่มรสชาติ

ใกล้ๆ กับเตาย่างนั้นจะเป็นสเตชั่น Raan Burger 

14-zone-2

Raan Burger หรือเบอร์เกอร์เนื้อแกะนี้ เป็นอีกเมนูอร่อยที่ห้ามพลาด เพราะเนื้อแกะทำมาได้นุ่ม รสชาติกลมกล่อม แถมตัว bun เองก็หอมเนย มีการจี่บนเตาร้อนจนขอบกรอบๆ โดนใจ

ติดๆ กันจะมี Masala fries และ Egg Burjee on Toast ให้ตักทานได้ โดยเชฟจะทำใหม่ๆ ร้อนๆ คอยเติมอยู่ตลอดไม่ให้ขาด

16-burger-fries-egg

 Chaat Counter 

เคาน์เตอร์นี้มี Chaat หรือ snack แบบอินเดียให้ลองชิม

8-chaat-1

เมนูที่เสิร์ฟจะเป็นแป้งทอดกรอบที่เจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์จะตักไส้รสเผ็ดนิดๆ มีน้ำขลุกขลิก ใส่ภายในแล้วส่งให้

9-chaat-2

อันนี้แนะนำให้ทานเข้าไปทั้งคำเลยในทีเดียว จะได้อารมณ์กว่า และไม่หกเลอะเทอะด้วยค่ะ

ติดกันที่เคาน์เตอร์นี้ก็ยังจะมี Station Kulcha/Uttapam ที่ทำแพนเค้กจากแป้งที่ทำจาก lentil

7-zone-1

อันนี้ทำให้สดใหม่ตามสั่ง มีให้เลือกใส่เครื่องได้มากน้อยกี่อย่างได้ตามใจชอบ

12-pancake

ด้านข้างยังมีให้ชิมอีกสองเมนู

10-soup

ชอบเมนูนี้เป็นพิเศษเพราะ base ตัวโยเกิร์ตที่เจ้า dumpling ที่ทำจาก lentil ลอยอยู่นั้นรสชาติดีกินได้ไม่รู้เบื่อ (แอบไปตักน้ำเปล่าๆมาซดเลยทีเดียว)

11

ข้างๆ กันนั้นก็ยังมี salad bar ที่มีผักให้เลือกหลายแบบ พร้อมน้ำสลัดหลากชนิด ให้เลือกตักกันตามชอบใจ

13-salad-bar

พาชมสเตชันอาหารหลากหลายกันแล้วก็ต้องมาดูเครื่องดื่มกันบ้าง และเครื่องดื่มสุดฮิตที่มาทานอาหารอินเดียทีไรเราไม่เคยพลาดก็คือ Lassi

Lassi Counter ตั้งอยู่สุดมุมหนึ่งของห้องอาหาร

24-zone-4

สามารถเลือกได้ถึงสี่แบบสี่สไตล์ด้วยกัน ตั้งแต่ รส original รสมะม่วง รสพิสตาชิโอ และรสขมิ้น

25-lassi-counter

ตัว base yogurt ของที่นี่เค้าทำเองและทำได้รสชาติดีมากๆ  Lassi เลยออกมาอร่อยทั้งสี่รส

ในทั้งหมดชอบรสพิสตาชิโอมากที่สุด ส่วนรสขมิ้นนั้นบางคนที่ไม่ถนัดกับเครื่องเทศอาจจะไม่ถูกใจเท่ารสอื่นๆ

26-lassi

เครื่องดื่มอีกอย่างที่อร่อยมากและมีบริการรวมอยู่แล้วในบุฟเฟต์ก็คือ Masala Tea

27-chai-tea-counter

ชาที่นี่เสิร์ฟร้อนๆ table side กลิ่นหอมรสละมุน นั่งกินบุฟเฟต์กันยาวๆ ก็จิบไปหลายแก้วอยู่เชียวค่ะ

28-chai-tea

ก่อนที่จะไปถึงสเตชันสุดท้ายคือสเตชันของหวานเราคั่นรายการกันด้วยเมนูอร่อยอื่นๆ ที่มีให้เลือกตักมาชิมกัน

ด้านหนึ่งของร้านจะเป็นไลน์อาหารจานร้อน

20-zone-3

ตรงนี้มีแกงและเมนูเด่นดังให้เลือกหลายแบบ

17-falafel

23-rice

ผัดปลาหมึกก็รสไม่จัดทานง่าย พาสต้าเพสโต้นี่แสตนดาร์ดทำมาไม่พลาดอยู่แล้ว ข้าวหมกก็ใช้เป็นข้าวบาสมาติเรียวยาว หมกเครื่องเทศมากลิ่นหอม

21-soup-rice

ในส่วนของแกงทำรสชาติได้เข้มข้นแบบดั้งเดิม ที่ชอบมากและน่าจะถูกปากหลายๆ คนเห็นจะเป็น butter chicken ที่ตัวแกงนวลข้นหอมเนย

ในส่วนนี้สามารถสั่งนานมาทานคู่กันได้ ซึ่งนานเองก็มีทั้งแบบธรรมดาและรสกระเทียมให้เลือก

22-naan

ที่ร้านใช้เตา tandoor ตามแบบฉบับต้นตำรับแท้ๆ

5-ambiance-3

หลังจากอิ่มแปล้กับเมนูมากมายรสชาติน่าสนใจที่มีให้ค้นหาและพาชิม ก็มาต่อที่สเตชัน Live Kulfi

อันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เพราะเชฟจะใช้ liquid nitrogen ทำขนมหวานให้ชมกันสดๆ น่าตื่นตา

29-kuff

ตัวนี้จะมีกลิ่นเครื่องเทศหอมๆ ตัวนมข้นจะถูกลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็วด้วยไนโตรเจนเหลว จนได้ออกมาเป็นของแข็ง หวานๆ เย็นๆ  นุ่มละลายในปากทันทีที่สัมผัส

ในส่วนของหน้า สามารถราดได้ทั้ง saffron cream หรือช็อกโกแลตซอส โรยตามด้วยอัลมอนด์และพิสตาชิโอ

ถูกใจกับสเตชันนี้มากจริงๆ โดยเฉพาะความหวือหวาของการแสดงเทคนิคการใช้ไนโตรเจนเหลวโชว์

หากใครมีพื้นที่ต่อสำหรับของหวานก็ยังจะมี พุดดิ้งข้าวรสนุ่มละมุน และกุหลาบจามุนรสหวานฉ่ำให้ปิดท้าย

30-desserts

โดยรวมแล้วเป็นร้านอาหารอินเดียที่ทำทุกอย่างออกมาได้น่าประทับใจ ambiance, presentation, flavor, variety ผ่านฉลุยไปอย่างใสๆ พอคิดเพิ่มกับโปรมา 4 จ่าย 3 แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคา

Punjab Grill Bangkok จึงเป็นอีกหนึ่งร้านที่แนะนำได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าน่าจะลองไปชิมกันค่ะ

Comments

comments