สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
ทางทีมงานของเราได้รับเกียรติจากทางโรงแรมแชงกรี-ลาให้มาเข้าร่วมชมดนตรีคลาสสิกบรรเลงโดยนักดนตรีฝีมือเยี่ยมจาก Vienna Chamber Orchestra และชิมอาหารฝีมือเชฟ Marc Cibrowius เราจึงเก็บตกบรรยากาศของงานมาฝากกันค่ะ
เพื่อสร้างทางเลือกหลากหลายให้เราอยู่เสมอ ทางโรงแรมจึงมักจัดงานดีๆ มีความหลากหลายให้คุณได้สัมผัสเรื่อยๆ ตลอดปี
สำหรับค่ำคืนนี้ ทางโรงแรมแชงกรี-ลาเชิญสุดยอดนักดนตรีสี่ท่านจาก Vienna Chamber Orchestra มาตั้งวง Quartet บรรเลงบทเพลงอันไพเราะให้เราฟัง
เห็นประวัติแล้วก็ต้องตกใจเพราะนักดนตรีทั้งสี่ถือว่าเป็นแถวหน้าๆ ของวงการ มีประวัติการเล่นกับวงใหญ่ๆ ระดับโลกมาอย่างยาวนานและโชกโชน
ก่อนงานจะเริ่มนั้น เรายังมีโอกาสได้ฟังการบรรเพลงพิณหวานๆ จาก Miss Wang Tong-Juan นักบรรเลงพิณสาวชาวจีนให้เพลิดเพลิน
ชื่นชมบรรยากาศรอบกายได้ไม่นาน ทางห้องอาหารก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
แชมเปญเข้ากันกับบรรยากาศผ่อนคลายและน่าเฉลิมฉลอง
ส่วน welcome drink นั้น เราถูกใจกับลูกเล่นที่ปัก Rosemary มาบนแก้ว เพราะทุกครั้งที่ยกขึ้นจิบ จะได้กลิ่นโรสแมรี่โชยมา ทำให้ความรู้สึกของรสชาติเครื่องดื่มมีความพิเศษอย่างคาดไม่ถึง
อาหารวันนี้รังสรรค์ขึ้นพิเศษโดยเชฟ Marc Cibrowius ที่เห็นแต่ละรายการบอกเลยว่าไม่ธรรมดาทั้งรสชาติและหน้าตา
ตั้งแต่ Mini lobster salad with creamy wasabi ที่มีคาเวียร์มาให้ด้วยด้านบน
Salmon tartar in salty cones with tobiko cream แซลมอนดิบเสิร์ฟในโคนกรุบกรอบ ได้ใจกันไปที่ครีมไข่กุ้งด้านล่างที่หอมมันกำลังดี
Foie gras praline with toasted brioche ฟัวกราส์เนื้อเนียนนุ่มเสิร์ฟมาบนขนมปัง brioche ฟูกรอบ
และ Seared tiger prawn with coriander and mango salsa กุ้งลายเสือเนื้อหวานเสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงรสอมเปรี้ยว ให้ความรู้สึกสดชื่นอารมณ์ tropical มาเต็ม
ถัดจากจานเย็นก็เป็นจานร้อนที่มีทั้ง Yellow-fin Tuna tempura with kaffir-lemon grass aioli
ทูน่าเทมปุระทอดที่เพิ่มกลิ่นแปลกใหม่ ไม่เป็นญี่ปุ่นแต่ฟิวชันเกือบออกไทยด้วยซอสมะกรูดและตะไคร้
Crispy tiger prawn with green organic tomato chutney กุ้งลายเสือทอดกรอบเสิร์ฟมากับมะเขือเทศแช่อิ่มอมเปรี้ยวอมหวาน
เอาใจแฟนๆ หอยเชลล์ด้วย Seared diver scallop with Belgium endive and orange sauce
หอยเชลล์สดหวาน ทานกับซอสส้ม ความหวานอมเปรี้ยวของตัวซอสเข้ากันได้ดีกับตัวหอยเชลล์ที่ไม่ได้ใส่เกลือมาจัดมาก เรียกว่าจัดสมดุลรสชาติได้ดีเยี่ยม ด้านล่างมี endive นุ่มๆ ชุ่มซอสส้มให้เพลิน
และมาอิ่มจริงกับ Mini open wagyu beef slider with buffalo mozzarella and tomato basil compote
เบอร์เกอร์ชิ้นพอดีคำที่ใช้เนื้อวากิวมาทำ ใส่มอสซาเรลลาชีสนุ่มๆ มาชิ้นไม่เล็กเท่าไร ได้ใจไปเต็มๆ เพิ่มความพิเศษด้วยรสชาติที่ไม่คุ้นลิ้นกับมะเขือเทศนิ่มๆ ที่มาพร้อมกลิ่นด้วยใบกระเพรา ฟังดูแปลกเล็กๆ แต่ไปกันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
และแน่นอนว่าระหว่างที่อร่อยไปกับอาหารชุดนี้นั้น ทางนักดนตรีก็บรรเลงเพลงคลาสสิกแสนไพเราะให้ฟังอยู่ไม่ขาด
ปิดท้ายด้วยขนมหวานละลานตา ที่มาตั้งแต่ Mango safron mousse with passion fruit salsa ชิ้นนี้ชอบเสาวรสเปรี้ยวๆ ด้านบน
Siciliani Cannoli cigar with light vanilla mascarpone cream คาโนลีสไตล์ Sicily ครีมนุ่มๆ หอมกลิ่นวนิลา
Manjari Chocolate Dome with tree cake and mango gelee ช็อกโกแลตโดมที่มีชั้น gelee มะม่วงทั้งชั้นอยู่ด้านล่าง
และ Signature Raspberry Macaron filled with pistachio ice cream มาการองรสราสพ์เบอร์รี่ที่สอดไส้มาด้วยไอศกรีมเนื้อเนียนข้นที่ทำจากถั่วพิสตาชิโอ
สี่อย่างนี้ ส่วนตัวให้มาการองชนะไปใสๆ ค่ะ
จบลงแล้วกับค่ำคืนอันแสนประทับใจ @ Lobby Lounge ที่นอกจากจะได้ฟังบทเพลงอันไพเราะจากเรายังได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศ ที่ Shangri-La Hotel, Bangkok
รายการดีๆ จากทางโรงแรมยังมีมาเรื่อยๆ ตลอดปี
ใครที่ไม่อยากพลาดอย่าลืมติดตามรายละเอียดกันจากเพจของโรงแรมแชงกรี-ลานะคะ