พักผ่อนสบายๆ ในคอนเซ็ปท์ Bed & Café @ Kokotel Surawong

รีวิวนี้จะพาไปพักผ่อนที่โรงแรม Kokotel โรงแรมเปิดใหม่ย่านสุรวงศ์กันค่ะ

หลังจากรีวิวอาหารอร่อยๆ ที่ Café Kokotel  https://foodiesjournie.com/cafe-kokotel ไปแล้ว เรามาดูในส่วนของโรงแรม Kokotel กันบ้าง

โรงแรม Kokotel อยู่ห่างจาก BTS ช่องนนทรี 800 เมตร เดินมาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ดูเส้นทางได้จากแผนที่ด้านล่างนี้เลย

map2
1 Kokotel street view
ข้างโรงแรมมีที่จอดรถประมาณ 7 คัน ลูกค้าโรงแรมจอดฟรีค่ะ

2 Parking

ชื่อโรงแรม Kokotel ได้แรงบันดาลใจมาจากคำในภาษาญี่ปุ่นตามภาพด้านล่างนี้

koko

แต่คำที่สำคัญที่สุดคือ Kokoro แปลว่าหัวใจ เป็นสัญลักษณ์แทนความมุ่งมั่นของโรงแรมที่จะให้บริการแขกที่มาพักอย่างอบอุ่น โดยผสานความมีน้ำใจของคนไทยกับคุณภาพการบริการตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่น

การบริการที่ Kokotel นั้น เจ้าของโรงแรมคนญี่ปุ่นได้แนวคิดมาจากการให้บริการแขกในเรียวกัง คือ บริการแขกที่เข้าพักเหมือนดูแลเพื่อนๆ และครอบครัวมาที่มาเยี่ยมและพักผ่อนที่บ้าน

ส่วน Concept Bed & Café ของ Kokotel คืออยากให้แขกได้พักผ่อนสบายๆ ทานอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ เหมือนอยู่ที่บ้านตัวเอง

4 Kokotel outdoor

ปกติเวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่นจะเห็น mascot ของสถานที่ต่างๆ เยอะมาก ถ้าสังเกตดู logo ของโรงแรม ก็มี mascot เหมือนกันค่ะ คือ แกะ Koko และครอบครัว โรงแรมเลือกใช้แกะเป็นสัญลักษณ์เพราะสื่อถึงการนอนหลับฝันดีนั่นเอง

พอเปิดประตูเข้ามาในโรงแรมก็จะเจอแกะ Koko ต้อนรับทุกคนอยู่ ข้างๆ มีสไลด์เดอร์จากชั้นสองลงมาข้างล่าง เด็กๆ เล่นกันสนุกเลยค่ะ

5 Koko Slider

ด้านขวาเป็น Front Desk อยู่โซนเดียวกับ Café ถ้าใครมาถึงก่อนเวลาเช็คอิน 14:00 น. ที่ Kokotel มีบริการรับฝากกระเป๋าด้วยค่ะ แจ้งพนักงานได้เลย ส่วนเวลาเช็คเอาท์คือ 12:00 น. พื้นที่ตรง Front Desk ค่อนข้างจำกัด แต่ว่าบริเวณโดยรอบกว้างขวาง มีพื้นที่ให้นั่งรอกันได้สบายๆ วันที่เราเข้าพักสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพักค่อนข้างมาก และหลายคนจะถามข้อมูลต่างๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง จากพนักงานตรงนี้เลยค่ะ มีพนักงานประจำ Front Desk ตลอด 24 ชั่วโมง และ Café ก็เปิด 24 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน

6 lobby

ระหว่างรอเช็คอินเราเดินขึ้นไปดูชั้นสองกันค่ะ

7 Stair

8 KokoPlay
โรงแรม Kokotel เป็นโรงแรมที่ family-friendly และ child-friendly ดังนั้นจึงมีห้อง KokoPlay ตกแต่งน่ารักสดใส มีบ่อบอล สไลเดอร์ และของเล่นต่างๆ ไว้ให้เด็กเล่นสนุกกัน  ผู้ปกครองสามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มจาก Café ขึ้นมานั่งทานบริเวณด้านนอกห้องได้ค่ะ

9 KokoPlay 2

ห้อง Kokoplay สามารถใช้จัดปาร์ตี้ให้เด็กๆ ได้ด้วย ถ้าใครสนใจติดต่อสอบถามโรงแรมเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

10 KokoPlay 4

ไหนๆ ก็มาอยู่โซนเด็กแล้ว ขอปล่อยแก่หน่อยแล้วกัน เมื่อกี้เดินขึ้นบันไดมา แต่เราจะสไลเดอร์ลงไปเพื่อความสนุกสนาน แปปเดียวก็ถึงข้างล่างแล้วค่ะ

11 Slider

เช็คอินเสร็จเรียบร้อยจะได้รับคีย์การ์ดและรหัส WI-FI ที่ Kokotel ให้บริการ WI-FI ฟรีทั้งในห้องนอนและพื้นที่อื่นๆ ในโรงแรมนะคะ สะดวกสบายมากๆ เลย

17 Key Card & WIFI Password

เข้าลิฟท์มาแล้วแตะคีย์การ์ดเลยค่ะ คีย์การ์ดห้องเราขึ้นได้เฉพาะชั้นที่เราอยู่ เพื่อความปลอดภัยของแขกทุกคน

13 Lift Key Card

ระเบียงทางเดินกว้างพอสมควร

14

ตกแต่งด้วยรูปแกะ Koko และครอบครัวทั้งสองฝั่ง

15 Room

ห้องพักที่ Kokotel มีทั้งหมด 40 ห้อง เป็นห้องแบบ non-smoking ทั้งหมดค่ะ มีห้องสำหรับเข้าพักคนเดียวไปจนถึงสี่คน มาดูกันดีกว่าค่ะว่าห้องแต่ละแบบเป็นอย่างไรบ้าง รายละเอียดห้องพักแต่ละแบบตามตารางนี้เลยค่ะ
roomtypes
วันนี้เราพักห้อง Koko Solo เปิดเข้ามาจะเจอโซนห้องน้ำ ห้องอาบน้ำก่อน ห้องนอนที่ Kokotel ทุกห้องมีห้องน้ำส่วนตัวนะคะ โดยแยกโซนอ่างล้างมือ ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ของใช้มีสบู่เหลว แชมพู ครีมนวดผม โลชั่นทาผิว ไดร์เป่าผม หมวกคลุมอาบน้ำ สำลีแผ่น สำลีก้านให้พร้อม ส่วนในตู้เสื้อผ้ามีตู้เซฟ หมอน รองเท้าแตะ และร่มค่ะ

18 Shower & Amenities
บนเตียงมีดีเทลน่ารักๆ อย่างตุ๊กตากระดาษรูปแกะ ส่วนผ้าห่มก็ปักรูปแกะ Koko และครอบครัวเช่นกัน

21 Koko Solo

19 Sheep

เตียงเดี่ยวขนาด 4 ฟุต นอนสบายมากเลยค่ะ ปลอกหมอน ผ้าห่ม ใช้ผ้าคุณภาพดี นุ่ม ลื่นสุดๆ

20 Koko Solo B&B

มาดูตรงโต๊ะทำงานบ้าง มีน้ำดื่มให้ฟรี 1 ขวด ถ้าห้อง type อื่นก็ให้น้ำดื่มตามจำนวนแขกที่เข้าพักนะคะ

22 Desk

ทีวีจอใหญ่ติดผนัง และมีโทรศัพท์ นาฬิกาปลุกด้วย ส่วนตู้เย็นไม่มีเครื่องดื่มให้นะคะ นอกจากนี้ยังมีที่ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือให้อีกต่างหาก จะใช้ค่ายไหนก็สบายใจหายห่วง ส่วนตัวชอบตรงนี้มาก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดีค่ะ

23 charger

เราพักห้อง Koko Solo แต่จะพาไปดูห้องแบบอื่นด้วยค่ะ

KokoMate เป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียง ห้อง type นี้ได้รับความนิยมมากที่สุดค่ะ

24 KokoMate

KokoCouple เป็น ห้องสำหรับ 2 ท่านเหมือนกับ KokoMate แต่ KokoCouple เป็นเตียง queen size ค่ะ

KokoFamily เหมาะสำหรับครอบครัวหรือเพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน บรรยากาศห้องนี้เหมือนพักในเรียวกังเลยค่ะ ไม่มีเตียง และจัดที่นอนให้คล้ายที่นอน futon สไตล์ญี่ปุ่น

25 KokoFamily
KokoParty ห้องนี้เปิดเข้ามาก็ตื่นเต้นเลยค่ะ เพราะมีเตียงสองชั้นด้วย

26 KokoParty

พาชมห้องพักครบทุกแบบแล้วก็ถึงเวลาเข้านอน ถึงแม้โรงแรมจะอยู่ใกล้ถนน แต่ว่าในห้องก็เงียบนะคะ ไม่ได้ยินเสียงรถยนต์หรือเสียงรบกวนจากข้างนอก

27 Koko Key Card

พอตื่นมาตอนเช้าแทบไม่อยากลุกจากเตียงเลยค่ะ เพราะเตียง หมอน และผ้าห่มนุ่มมาก นอนหลับสบายค่ะ

มาทานอาหารเช้ากันดีกว่า อาหารเช้าที่นี่ไม่รวมในค่าห้องพักนะคะ มีให้เลือก 3 เซ็ท แต่ละเซ็ทเลือกอาหารได้ 1 เมนู และเครื่องดื่ม 1 อย่าง

breakfast2

เราเลือก Set B – Egg Benedict ค่ะ

Egg Benedict 1
หน้าตาน่ากิน ไข่ทำมาได้ดี หั่นแล้วไหลเยิ้มเลย ซอสก็อร่อย แต่ว่าขนมปังแข็งไปนิดนึงค่ะ

Egg Benedict 2

ปิดท้ายมื้อเช้าด้วยลาเต้ร้อนหอมๆ

Hot Latte

โดยรวมแล้วประทับใจโรงแรม Kokotel มากค่ะ แม้ว่าโรงแรมจะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่จัดสรรพื้นที่ได้ดี  ถึงแม้จะอยู่ในห้องพักก็ไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ และมีห้องพักให้เลือกสำหรับ 1-4 ท่าน เฟอนิเจอร์ bedding ก็ใช้ของคุณภาพดี ชั้นล่างตรงโซน Cafe Kokotel มีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย รสชาติอร่อย พนักงานทุกคนก็อัธยาศัยดี และบริการลูกค้าได้ยอดเยี่ยมตามคุณภาพการบริการแบบคนญี่ปุ่น

หากใครสนใจอยากมาพักที่ Kokotel สำรองห้องพักกับโรงแรมได้โดยตรงที่  02 235 7555 หรือ email: [email protected] ช่วงนี้ถ้าจองกับโรงแรมโดยตรงได้รับ voucher อาหารและเครื่องดื่มนะคะ

ติดตามข่าวสารของโรงแรม Kokotel เพิ่มเติมได้ที่ http://www.kokotel.com และ http://www.facebook.com/kokotelsurawong

สุดท้ายนี้ทีมงาน Foodie’s Journie ขอขอบคุณโรงแรม Kokotel ที่เชิญไปเข้าพักและรับประทานอาหารที่โรงแรมค่ะ

Comments

comments