5 อันดับร้านราเมนสุดอร่อยส่งตรงจากญี่ปุ่นที่ควรค่าน่าไปลอง

ในเวลาไม่กี่ปีมานี้กระแสความนิยมอาหารญี่ปุ่นในไทยพุ่งสูงอย่างฉุดไม่อยู่

นอกจากร้านอาหารญี่ปุ่นจะเปิดใหม่กันไม่เว้นแต่ละวันแล้ว บางคนก็ยังรู้สึกว่าร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดกันยังได้อารมณ์ไม่พอโหยหาอยากที่จะได้ทานอาหารญี่ปุ่นที่เป็นของจริงของแท้รสชาติต้นตำรับ จึงเป็นที่มาของการเปิดร้านสาขาในประเทศไทยของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังหลายๆ เจ้าที่สร้างชื่อลือนามประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามอยู่แล้วในประเทศญี่ปุ่น

เราจะเห็นได้ว่ามีทั้งร้านแบบ Omakase ร้านสไตล์ Kaiseiki รวมไปถึงร้าน specialty ต่างๆ อย่าง Tempura, Tonkatsu, Okonomiyaki , Wagyu Beef เรียกว่าไล่นับกันไม่หวัดไม่ไหว

วันนี้ก็เลยจะถือโอกาสมาจัดอันดับร้านราเมนสุดอร่อยจากญี่ปุ่นที่มาเปิดให้เราได้ลองชิม และก็ต้องออกตัวว่าจัดอันดับตามความชอบส่วนตัวล้วนๆ ค่ะ ถ้าไม่ตรงใจบ้างก็ขออภัยด้วยนะคะ

อันดับ 1 Bankara Ramen

ที่ตั้ง: 32/1 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

Bankara เป็นร้านราเมนเชนชื่อดังจากโตเกียว ด้วยความเป็นสูตรต้นตำรับแท้ๆ แม้จะเปิดมานานคนก็ยังต่อคิวกันเนืองแน่นอยู่ตลอดทุกครั้งที่แวะไป

แนะนำ Bankara Soup น้ำซุปต้นตำรับปรุงรสด้วยโชยุของทางร้านเค้าล่ะค่ะ และ Tonkotsu Soup ซุปกระดูกหมูน้ำข้น รวมทั้ง Chashu หมูชาชูวงกลมชึ้นบางติดมันนิดๆ รสชาติเข้มข้นกำลังดี และ Kakuni หมูสามชั้นตุ๋น ที่ตุ๋นมาจนนุ่มมมสุดๆ เส้นของที่นี่เหนียวนุ่ม ออกหนึบพอดีๆ ไม่นุ่มเกินไป

ชื่นชอบที่นี่จนยกให้เป็นที่หนึ่งก็เพราะตัวน้ำซุปเลยค่ะ น้ำซุปมันมาก เข้มข้นมาก เรียกได้ว่าตักขึ้นมานี่จะเจอมันหมูเป็นชิ้นๆ ลอยฟ่องอยู่

อันนี้บอกเลยว่าไม่เหมาะกับสาวๆ ที่ดูแลรูปร่าง เพราะระดับความมันน่าจะสะเทือนใจ ถ้าไม่ได้เป็นแนวชอบซุปข้นๆ แนะนำให้สั่งมันน้อยค่ะ ทางร้านสามารถลดความมันให้ได้ค่ะ ดูจะทำให้แต่ละคนซดคล่องคอขึ้น อีกเคล็ดลับคือการใส่กระเทียมค่ะเพราะช่วยตัดเลี่ยนไปได้โขเลย

ร้านนี้คนที่ชอบซุปแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ข้นและมันสะใจจะต้องรักที่นี่แน่นอนค่ะ

อันดับ 2 Chabuton

ที่ตั้ง: ชั้น 6 Central World

ร้านนี้เชฟชนะเลิศ Ramen Champion มาด้วยจึงไม่แปลกที่ดังเป็นที่รู้จักกว้างขวางและสร้างความตื่นเต้นให้เราอย่างมากตอนที่เข้ามาเปิดในไทย

แนะนำ Shio Tonkotsu Ramen ค่ะ น้ำซุปกระดูกหมูหอมมัน เข้มข้นเช่นกันแต่ไม่โหดมากเท่าบังคาระ รสชาติกลมกล่อม ตัวเส้นราเมนก็หนืดกำลังได้ที่ แถมหมูย่างของที่นี่อร่อยสุดๆ รสเข้มข้นแทบจะเหมาะทานกับข้าวมากกว่าราเมนเสียด้วยซ้ำ ถ้าใครชอบทานข้าวแนะนำเมนูข้าวหน้าหมูย่างซึ่งราคาย่อมเยา ทั้งอิ่มทั้งฟินอย่าบอกใครเลยค่ะ

อันดับ 3 Tonkotsu Kazan Ramen

ที่ตั้ง: ปากซอยพัฒน์พงศ์ฝั่งถนนสุรวงศ์ ตรงข้ามกับโรงแรมมณเฑียร

อันนี้ให้คะแนน presentation ไปเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ กับราเมนภูเขาไฟ ที่ฝาครอบเปรียบเสมือนปากปล่องภูเขาไฟ เสิร์ฟมาร้อนควันฉุย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีน้ำซุปร้อนๆ มาราดให้ถึงโต๊ะ ความที่ตัวหม้อร้อนมาก เมื่อโดนน้ำก็จะส่งเสียงซูซ่าๆ เป็นที่ฮือฮาสำหรับคนทาน นอกจากจะดูน่าตื่นเต้นแล้ว การเสิร์ฟแบบนี้ยังทำให้ราเมนของคุณร้อนระอุตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เย็นชืดลงตั้งแต่กลางทางซึ่งเป็นอะไรที่แจ่มมาก

วันที่ไปชิมไปกันหลายคนมาก สั่งกันเกือบครบทุกเมนูก็อร่อยทุกชามทั้งซุปเกลือ (Shio) ซุปโชยุ (Shoyo) แกงกะหรี่ญี่ปุ่น (Curry) แม้กระทั่งตัวราเมนมะเขือเทศที่กลั้นใจกันอยู่สักพักกว่าจะกล้าสั่งก็อร่อย

ที่เด็ดกว่านั้นคือของหวานค่ะที่ยังคงคอนเสปท์ภูเขาไฟ เสิร์ฟแบบควันเย็นพวยพุ่งกันเลยทีเดียว ไม่สั่งนี่พลาดมากเลยค่ะ

วิดีโอราเมนภูเขาไฟ

อันดับ 4 Hokkaido Ramen Santouka

ที่ตั้ง: 6th Floor, ISETAN, Central World

อีกหนึ่งร้านราเมนชื่อดังที่ตั้งขึ้นที่ฮอกไกโดตั้งแต่ 1988 เริ่มจากร้านเล็กๆ จนเริ่มสร้างชื่อ และล่าสุดก็ได้ไปเปิดสาขาในหลายประเทศรวมทั้งไทยและอเมริกา

ชื่นชอบที่นี่ด้วยรสชาติราเมนที่นุ่มหนึบและซุปที่กลมกล่อมทานง่ายไม่เข้มข้นหรือเค็มจนเกินไป วนกินซุปทุกแบบก็อร่อยทุกแบบเช่นกัน ร้านนี้อร่อยได้มาตรฐานจริงๆค่ะ

ตัวหมูก็อร่อยแต่ยอมรับตรงๆ ว่าไม่พีคเท่าของ Bankara หรือ Chabuton ถ้าใครชอบแบบเย็น ชุดราเมนเย็นของที่นี่ก็อร่อยสดชื่นมากทีเดียว

ที่ปลื้มเป็นพิเศษคือความที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย มีเซตสุดคุ้มมากมายให้เลือกสรร จานโปรดที่สั่งบ่อยมากก็จะเป็นเซตที่มีข้าวหน้าไข่ปลาแซลมอนและไข่ต้มอยู่ด้วย ทานหมดชุดนี่อิ่มอร่อยกันแน่นอน

อันดับ 5 Osaka Tonkotsu Ramen Misawa

ที่ตั้ง: เดินไม่ถึง 5 นาทีจากทางออก MRT ศูนย์วัฒนธรรม

ร้านที่แล้วมาจากฮอกไกโด ส่วนร้าน Misawa นี้เป็นสูตรโอซาก้าค่ะ

ชอบราเมงร้านนี้ที่ตัวเส้นออกไปทางแน่นๆ หนึบๆ เหมือนกัน (ส่วนตัวไม่นิยมเส้นที่นุ่มเกิน) หมูนุ่มอร่อยแต่รสไม่จัดอร่อยดีไม่ถึงกับพีค แถมรสชาติน้ำเข้มข้นถึงรสถึงชาติแต่ไม่มันมากเกินไป

สำหรับซุปเกลือ เกลือที่ใช้ก็ไม่ธรรมดาแต่เป็นเกลือ Shimama-su จากโอกินาว่า ส่วนซุปโชยุที่นี่เค้าผสมสองสุดยอดโชยุเข้าด้วยกันคือ Koikushi Shoyu โชยุแบบเข้มข้นของจังหวัดมิเอะ กับ Gokou Shoyu ของเมืองเกียวโต ใช้เวลาหมักมากกว่า 2 ปี นับว่าเป็นของหายากแม้กระทั่งในประเทศญี่ปุ่นเอง ซดน้ำซุปโชยุหอมๆ เปรียบเทียบกับซุปเกลือแล้วจะได้รสชาติที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดแถมยังมีซุปพรีเมี่ยมที่เอาใจคนตัดสินใจลำบากอย่างเรา เพราะเป็นซุปกระดูกหมูผสม Gokou Shoyu เรียกว่าเป็น the best of both worlds ไปด้วยกันเลยทีเดียว

ร้านนี้กว้างขวางใหญ่โตมาก ช่วงหลังๆ ร้านไปเน้นบุฟเฟต์แซลมอนเสียหนัก คนเลยมักมุ่งไปกินแต่แซลมอน

ส่วนตัวก็ยังคิดว่าถ้าหาโอกาสไปได้ ไปลองเป็นราเมนกันดูบ้างนะคะ ของเค้าออกจะดี โดยเฉพาะซุปพิเศษสไตล์โอซาก้าที่น่าลองม้ากมาก